KJDOO.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาการใช้งานของคุณ อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่

น้ำตาเทียม ยี่ห้อไหนดี

น้ำตาเทียม

น้ำตาเทียม (Artificial Tears) มีวัตถุประสงค์เพื่อนำมาใช้หล่อลื่นลูกตา เพราะมีคุณสมบัติใกล้เคียงกับน้ำตาธรรมชาติ ช่วยบรรเทาอาการระคายเคือง อาการแสบหรือไม่สบายตา ซึ่งมีสาเหตุมาจากตาแห้ง

และอาจนำมาใช้เพื่อหล่อลื่นลูกตาสำหรับผู้ที่ใส่คอนแทคเลนส์ น้ำตาเทียมสามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไปโดยที่ไม่ต้องมีใบสั่งแพทย์ อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเพื่อให้สามารถใช้ได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ

น้ำตาเทียมสามารถแบ่งออกได้ 3 รูปแบบ ดังนี้

สารบัญ

1.น้ำตาเทียมรูปแบบสารละลายชนิดขวด มีขนาดบรรจุตั้งแต่ 5 มิลลิลิตร 15 มิลลิลิตร และ 30 มิลลิลิตร

น้ำตาเทียมรูปแบบนี้จะเหมาะกับผู้ที่มีอาการตาแห้งเล็กน้อยและสะดวกใช้เป็นประจำมีราคาตามท้องตลาดถูกกว่ารูปแบบสารละลายชนิดแท่งที่ใช้วันเดียว

และใช้งานง่ายกว่ารูปแบบเจลและแบบขี้ผึ้งป้ายตา ไม่เหนียวเหนอะหนะ สามารถหยอดได้ในช่วงเวลากลางวันโดยไม่ทำให้ตาพร่ามัว แต่มีข้อเสียคือ ต้องใช้บ่อยกว่ารูปแบบเจลและแบบขี้ผึ้งป้ายตา หลังจากการเปิดใช้หยอดยาแต่ละครั้ง 

หากปิดขวดยาไม่สนิทหรือเก็บยาไม่มิดชิด อาจเกิดการปนเปื้อนจากสิ่งแวดล้อมได้ง่าย ในการใช้ยารูปแบบนี้จึงต้องเพิ่มความระมัดระวังในการจัดเก็บและการใช้หยอดตาในครั้งถัดไป เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการติดเชื้อที่ดวงตาติดตามมาค่ะ

2.น้ำตาเทียมรูปแบบสารละลายชนิดแท่งใช้วันเดียว หรือ น้ำตาเทียมรายวัน มีขนาดบรรจุหลอดละ 0.3, 0.4 และ 0.8 มิลลิลิตร บรรจุตั้งแต่ 20-60 หลอด ต่อ 1 กล่อง

น้ำตาเทียมรูปแบบนี้จะเหมาะกับผู้ที่มีประวัติการแพ้สารกันเสียในน้ำตาเทียมหรือต้องหยอดตาบ่อย ๆ เป็นเวลานาน เพราะการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของสารกันเสียติดต่อกันเป็นเวลานานจะทำให้เกิดการทำลายเซลล์เยื่อบุกระจกตาได้ มีราคาสูงกว่ารูปแบบแรก

โดยภาชนะบรรจุน้ำตาเทียมรูปแบบนี้จะแบ่งบรรจุเป็นแท่งหรือหลอดเล็ก ๆ ทำให้สามารถแบ่งพกพาได้ตามจำนวนที่ต้องการใช้หยอดตา และสะดวกต่อการใช้งานในแต่ละวันการหยอดยาแต่ละครั้งจะได้ปริมาณน้ำตาเทียมเท่ากันของการหยอดแต่ละครั้งไม่มีสารกันเสีย

จึงมีอายุการใช้งานภายใน 24 ชั่วโมงหลังจากเปิดใช้ครั้งแรก แต่มีข้อดีคือ ให้ความรู้สึกสบายตากว่า สามารถช่วยลดโอกาสตาแพ้สารกันเสียได้ (แต่ยังอาจแพ้สารเพิ่มความหนืดของน้ำตาเทียมได้อยู่) และมีโอกาสปนเปื้อนจากสิ่งสกปรกภายนอกได้น้อยกว่า

3.น้ำตาเทียมรูปแบบเจลและแบบขี้ผึ้งป้ายตา มีขนาดบรรจุ 3.5 กรัม

มีความหนืดมากกว่าน้ำตาเทียมรูปแบบสารละลายชนิดขวดและชนิดแท่งใช้วันเดียว จึงทำให้ความถี่ในการใช้ยาน้อยกว่าทั้ง 2 รูปแบบดังกล่าวด้วยความที่มีความหนืดมากกว่า

ทำให้น้ำระเหยช้าลงจึงช่วยรักษาความชุ่มชื้นให้แก่ดวงตาได้นานกว่า จึงเหมาะสำหรับใช้ในผู้ที่มีอาการตาแห้งระดับปานกลางถึงรุนแรงสามารถใช้ได้นานตามข้อกำหนดในเอกสารกำกับยาของแต่ละบริษัทยา

แต่ต้องเก็บยาหลังการเปิดใช้ด้วยความระมัดระวัง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการปนเปื้อนจากสิ่งแวดล้อม

วิธีใช้น้ำตาเทียม ควรปฏิบัติดังนี้

1.ล้างมือให้สะอาด

2.แหงนหน้าขึ้น โดยให้อยู่ในมุมที่ถนัดที่สุด แล้วใช้มือข้างหนึ่งดึงเปลือกตาล่างลงมาเบา ๆ ให้เป็นกระเปาะหรือกระพุ้งเพื่อเปิดพื้นที่ของการหยอดน้ำตาเทียม

3.เหลือบตามองขึ้นข้างบน และวางปลายหลอดน้ำตาเทียมในตำแหน่งที่ห่างจากดวงตาพอประมาณ แล้วบีบหลอดยาของน้ำตาเทียมให้ยาหยดลงตรงบริเวณดวงตาด้วยมืออีกข้าง

โดยจำนวนที่หยดให้ใช้ตามคำสั่งของแพทย์ผู้ให้การรักษา ซึ่งโดยทั่วไปคือประมาณ 1-2 หยด

(ควรระมัดระวังไม่ให้ปลายหลอดน้ำตาเทียมแตะโดนบริเวณดวงตาหรือใบหน้า หรือสัมผัสปลายนิ้วมือหรือส่วนใดของร่างกาย เพื่อป้องกันการปนเปื้อนของเชื้อจุลินทรีย์เข้าไปเจริญเติบโตอยู่ในยา)

4.จากนั้นให้หลับตาและกลอกตาไปมาประมาณ 2-3 นาที พร้อมกับเอียงศีรษะเพื่อไม่ให้น้ำตาเทียมไหลออกมาจากดวงตา

5.เช็ดยาส่วนเกินที่หยดออกมานอกดวงตาด้วยกระดาษชำระหรือผ้าที่สะอาด

6.ล้างมือหลังหยอดตาให้สะอาด เพราะอย่าลืมว่าการติดเชื้ออาจเป็นที่ตาอีกข้างหนึ่งได้ ถ้าเอามือสกปรกที่แตะหนังตาหรือขี้ตามาถูกตาอีกข้างหนึ่ง

7.หลังจากหยอดน้ำตาเทียมแล้ว ควรหลีกเลี่ยงการกะพริบตาถี่ ๆ เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำตาเทียมไหลออกจากตาเร็วขึ้น และให้ใช้นิ้วมือคลึงเบา ๆ บริเวณหัวมุมของเปลือกตาเพื่อช่วยกระจายน้ำตาเทียมให้ทั่วตา

การใช้น้ำตาเทียมมีข้อควรระวัง ดังต่อไปนี้

1.หากเคยมีประวัติอาการแพ้จากการใช้น้ำตาเทียม ควรหลีกเลี่ยงการใช้หรือปรึกษาแพทย์ก่อนการใช้

2.น้ำตาเทียมใช้สำหรับบรรเทาอาการตาแห้งเท่านั้น ไม่สามารถรักษาสาเหตุของอาการตาแห้งได้

3.หลีกเลี่ยงการใช้น้ำตาเทียมในการรักษาหรือป้องกันการติดเชื้อที่ตา ผู้ที่มีการติดเชื้อที่ตา ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรเพื่อความปลอดภัยในการใช้

4.หากมีความผิดปกติใด ๆ เกิดขึ้นหลังจากใช้น้ำตาเทียม เช่น เกิดอาการระคายเคือง ให้หยุดใช้ทันทีและรีบพบจักษุแพทย์ รวมไปถึงผู้ที่มีอาการตาแห้งรุนแรงหรือเรื้อรัง ควรปรึกษาจักษุแพทย์เพื่อวินิจฉัยหาสาเหตุที่แท้จริง

5.สำหรับผู้ที่ใส่คอนแทคเลนส์ โดยทั่วไปควรเอาคอนแทคเลนส์ออกก่อน จึงค่อยหยอดน้ำตาเทียม ทิ้งไว้ประมาณ 10-15 นาที แล้วจึงค่อยใส่คอนแทคเลนส์กลับไป

เพราะการใช้น้ำตาเทียมชนิดที่มีสารกันเสียอาจทำให้คอนแทคเลนส์เปลี่ยนสี หรืออาจทำลายเซลล์เยื่อบุกระจกตาได้ เช่น สารเบนซาลโคเนียมคลอไรด์ (Benzalkonium Chloride) หากเยื่อบุกระจกตาต้องสัมผัสกับสารนี้เป็นเวลานานอาจทำให้เซลล์เยื่อบุกระจกตาถูกทำลายได้

หรือควรเลือกน้ำตาเทียมที่เหมาะสำหรับใช้กับคอนแทคเลนส์ คือ เลือกใช้น้ำตาเทียมแบบกระเปาะที่ใช้ได้ภายใน 1 วัน หรือเลือกใช้น้ำตาเทียมชนิดที่ไม่ใส่สารกันเสีย หรือใส่สารกันเสียที่มีผลเสียกับเยื่อบุกระจกตาน้อย

6.หากมีความจำเป็นต้องใช้น้ำตาเทียมรวมกับยาหยอดตาชนิดอื่น ควรเว้นให้ห่างกันประมาณ 10 นาที

7.ควรระมัดระวังไม่ให้ปลายหลอดน้ำตาเทียมสัมผัสกับดวงตา ผิวหน้า หรือส่วนใดของร่างกาย เพราะอาจทำให้ปนเปื้อนเชื้อแบคทีเรียจนทำให้เกิดการติดเชื้อตามมาได้

8.น้ำตาเทียมทุกชนิด เมื่อหมดอายุแล้วควรทิ้งส่วนที่เหลือทันทีและห้ามนำมาใช้

9.ควรเก็บน้ำตาเทียมไว้ที่อุณหภูมิห้อง ประมาณ 15-30 องศาเซลเซียส และห้ามแช่แข็ง

10.สำหรับผู้ที่ตั้งครรภ์ ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรเพื่อความปลอดภัยในการใช้ อย่างไรก็ตาม ยังไม่พบว่าการใช้น้ำตาเทียมมีอันตรายต่อทารกในครรภ์ หรือสตรีให้นมบุตร

อ่านบทความเกี่ยวข้อง  เครื่องหนีบผม ยี่ห้อไหนดี

วิธีเลือกน้ำตาเทียม

1.หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีสารกันเสีย (Benzalkonium Chloride)

สิ่งสำคัญมากที่สุดในการเลือกน้ำตาเทียมคือการหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารกันเสียชนิดรุนแรงเช่น Benzalkonium chloride

เพราะแม้ว่าจะช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียและเชื้อโรคต่าง ๆ แต่หากใช้ซ้ำติดต่อกันเป็นเวลานานก็สามารถทำลายเซลล์เยื่อบุกระจกตาได้เช่นกัน

2.เลือกส่วนประกอบให้เหมาะสมกับอาการของดวงตา

ในปัจจุบันยาหยอดตาหรือน้ำตาเทียมมีอยู่มากมายหลายสูตร ซึ่งแต่ละสูตรมีส่วนผสมที่ต่างกันออกไป และส่วนผสมที่แตกต่างกันนี้ก็มีสรรพคุณช่วยบรรเทาอาการที่เฉพาะเจาะจง เราควรจะเลือกอย่างไรให้เหมาะกับตัวเองนั้น ตามมาดูกันเลยค่ะ

  • อาการระคายเคือง คัน หรือเส้นเลือดฝอยในตาแตก

หากคุณมีอาการตาแห้งพร้อม ๆ กับอาการคันและเส้นเลือดฝอยในตาแตกร่วมด้วย ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีคุณสมบัติช่วยรักษาอาการคันโดยเฉพาะ

เพราะยาหยอดตาทั่วไปที่มีเพียงมอยเจอร์ไรเซอร์อาจไม่สามารถบรรเทาอาการดังกล่าวได้  พยายามหลีกเลี่ยงยาหยอดตาหรือน้ำตาเทียมที่มีส่วนผสมของสารที่ทำให้เส้นเลือดหดตัวเพราะสารนั้น ๆ

อาจทำให้ตาแห้งยิ่งไปกว่าเดิม หากอาการไม่ดีขึ้น แนะนำให้ปรึกษาเภสัชกรหรือแพทย์เฉพาะทางจะดีที่สุด

  • อาการตาอ่อนล้า

อาการตาเหนื่อยอ่อนล้านอกจากจะมีสาเหตุมาจากการใช้สายตาอย่างหักโหมแล้วยังเกิดจากตาแห้งด้วยเช่นกัน ดังนั้นคุณจึงควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของวิตามินและมอยเจอร์ไรเซอร์สูง

เช่น กรดไฮยาลูรอนิค เพราะสารเหล่านี้จะทำให้คุณรู้สึกกระปรี้กระเปร่าและชุ่มชื้น นอกจากนี้ยังช่วยกักเก็บน้ำไว้ในดวงตาได้นานขึ้นอีกด้วย

3.ป้องกันอาการระคายเคืองโดยการเลือกใช้น้ำตาเทียมแทนยาหยอดตา

ตามปกติแล้ว น้ำตาเทียมจะมีส่วนผสมของ Sodium chloride และ Potassium chloride เพื่อให้ใกล้เคียงกับส่วนประกอบของน้ำตามนุษย์มากที่สุด

ดังนั้นจึงเกิดการระคายเคืองได้น้อย ใครที่ไม่อยากเสี่ยงกับการดูส่วนผสมของยาหยอดตาต่าง ๆ การเลือกใช้น้ำตาเทียมก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ

4.อย่าลืมตรวจสอบความคุ้มค่าและความถี่ในการใช้งาน

ปัจจุบันนี้ยาหยอดตาและน้ำตาเทียมมักทำบรรจุภัณฑ์เป็น 2 รูปแบบ คือ “แบบขวด” และ “แบบกระเปาะ” ซึ่งทั้งสองแบบนี้หากถูกเปิดใช้งานแล้ว จะมีอายุการใช้งานที่จำกัดเหมือนกัน โดยทั่วไปแบบขวดจะอยู่ได้ 1 เดือน

และแบบกระเปาะจะอยู่ได้ 1 วัน ดังนั้นคุณควรเลือกผลิตภัณฑ์ให้เหมาะสมกับความถี่ในการใช้งานก่อนจะซื้อ

สำหรับการหยอดตา โดยทั่วไปควรหยอดครั้งละ 1 หยดเท่านั้น เพราะดวงตาของเราสามารถกักเก็บน้ำได้ประมาณ 0.03 ml. ในขณะที่น้ำตาเทียม/ยาหยอดตาหนึ่งหยดมีปริมาณถึง 0.05 ml. 

หากคุณหยอดเพิ่มเข้าไปอีก น้ำยาจะไหลออกมาแทน ดังนั้นจึงควรกะปริมาณในการใช้ให้ดี วันนี้เรามี 10 อันดับน้ำตาเทียมมาแนะนำพร้อมแล้วไปดูกันเลยค่ะ

แนะนำ 10 ยี่ห้อยอดฮิตน้ำตาเทียม

1.น้ำตาเทียม ROHTO รุ่น ROHTO vita40 น้ำตาเทียมความเย็นระดับ 3

ยาหยอดตา Rohto จากญี่ปุ่น รุ่นนี้มีส่วนผสมของกรดอะมิโน (amino acids) และวิตามินถึง 4 ชนิด ซึ่งได้แก่ Vitamin E ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต ลดอาการเลือดคั่งในตา Vitamin B6  ช่วยกระตุ้นกระบวนการผลิตเซลล์

ทำให้การทำงานของเซลล์ในดวงตาเป็นปกติ ลดอาการ เมื่อยล้าจากการใช้สายตาติดต่อกันเป็นเวลานาน Sodium (Natrium) (โซเดียม) ช่วยคงความชุ่มชื้นให้กับดวงตาและป้องกันการติดเชื้อ Potassium(Kalium) (โพแทสเซียม)

ซึ่งจะช่วยเพิ่มออกซิเจนและความชุ่มชื้นในดวงตา มีส่วนช่วยบำรุงและถนอมดวงตา ลดความอ่อนล้าจากการใช้สายตานาน ๆ ลดอาการตาแห้งระคายเคือง เพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ดวงตา ฟื้นฟูดวงตาจากอาการเมื่อยล้า

บำรุงดวงตาให้สดชื่น สุขภาพดี สะอาด ลดอาการปวดตา แสบตา ช่วยให้ดวงตาสะอาด มีสุขภาพดีค่ะ น้ำตาเทียมรุ่นนี้สามารถใช้ได้ทั้งผู้ที่สายตาปกติและผู้ที่สวมใส่คอนแทคเลนส์ค่ะ

ข้อดี
ข้อด้อย

2. Hialid 0.3 น้ำตาเทียม รักษาอาการตาแห้ง คันตา ระคายเคืองตา 5ml

Hialid 0.3 น้ำตาเทียม รักษาอาการตาแห้ง คันตา ระคายเคืองตา 5ml น้ำตาเทียม เป็นยาปราศจากเชื้อ หนืด ใส ไม่มีสี มีตัวยาสำคัญคือ Purified Sodium Hyaluronate ซึ่งเป็นสารชีวภาพ ที่มีคุณสมบัติอุ้มน้ำและมีประสิทธิภาพ ในการสมานแผลให้หายเร็วขึ้น

ข้อดี
ข้อด้อย

3.น้ำตาเทียม Maxim Contact Lens รุ่น Tear Mac

น้ำตาเทียม Maxim ขนาด 10 มิลลิลิตร มีส่วนประกอบของ Caboxymethyl Cellulose Sodium บรรเทาอาการระคายเคืองนัยน์ตา รักษาอาการตาแห้ง หรืออาการไม่สบายตา

จากการโดนลมและแสงแดด วิธีใช้หยอดตา ครั้งละ 1-2 หยดและไม่ควรใช้น้ำตาเทียมกับคนที่แพ้สารที่เป็นส่วนประกอบของน้ำยาค่ะ

ข้อดี
ข้อด้อย

4.น้ำตาเทียม ALCON รุ่น Systane Ultra UD

น้ำตาเทียม ALCON รุ่น Systane Ultra UD มีประสิทธิภาพสูง บรรเทาอาการตาแห้ง ช่วยให้ดวงตาผ่อนคลายและบรรเทาอาการระคายเคืองตา ดวงตาของคุณจะรู้สึกสบาย จึงไม่กระทบต่อชีวิตประจำวันของคุณอีกต่อไป

วิธีใช้  สามารถใช้ได้ตามความต้องการหรือตลอดวัน ถ้ามีอาการระคายเคืองไม่สบายตา ตาพร่าขณะใส่เลนส์ หยอดตา 1-2 หยด และกระพริบตา 2-3 ครั้งค่ะ

ข้อดี
ข้อด้อย

5.น้ำตาเทียม Cellufresh รุ่น Cellufresh MD 15 ml.

น้ำตาเทียม Cellufresh รุ่นนี้ช่วยบรรเทา อาการตาแห้ง และระคายเคืองตาด้วยสูตรที่คล้ายกับน้ำตาในร่างกายประกอบด้วยสารกันเสีย ที่มีลักษณะเฉพาะตัว

อ่านบทความเกี่ยวข้อง  เตียงผู้ป่วย เตียงคนไข้ หรือที่ใช้กับผู้สูงอายุ ก่อนซื้อต้องดูอะไรบ้าง?

มีความอ่อนโยน และมีโอกาสในการเกิดการแพ้ต่ำและที่สำคัญมีส่วนประกอบของน้ำตาธรรมชาติอีกด้วยค่ะ

ข้อดี
ข้อด้อย

6.น้ำตาเทียม ALCON รุ่น Ultra UD

น้ำตาเทียม ALCON รุ่น Ultra UD ขนาด 0.5 ml น้ำตาเทียมรุ่นนี้ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับดวงตาได้เร็วและนาน บรรเทาอาการเจ็บตา แสบตา ระคายเคืองตา ตาแห้ง เนื่องจากฝุ่น ควัน โอโซน แสงยูวี ความร้อน

เครื่องปรับอากาศ ลม เครื่องสำอาง หรือการเพ่งสายตา ดูโทรทัศน์หรือคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานและที่สำคัญไม่มีสารกันเสีย

วิธีใช้  ใช้ได้ตามความต้องการตลอดวัน ถ้ามีอาการระคายเคืองไม่สบายตา หยอดตา 1-2 หยด และกระพริบตา 2-3 ครั้งค่ะ

ข้อดี
ข้อด้อย

7.น้ำตาเทียม Rohto Eye Drops รุ่น Vita 40

น้ำตาเทียมรุ่นนี้เหมาะสำหรับผู้ใส่คอนเทคเลนส์ ใช้สายตาหนัก จ้องจอคอมพิวเตอร์หรือหน้าจอมือถือเป็นเวลานาน ๆ ช่วยเพิ่มออกซิเจนและความชุ่มชื้นในดวงตา กระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต ลดอาการเลือดคั่งในตา

ป้องกันการติดเชื้อผู้ที่มีสายตาปกติก็สามารถใช้ได้ และน้ำตาเทียมรุ่นนี้มีส่วนผสมของกรดอะมิโน (amino acids) และวิตามินถึง 4 ชนิด ซึ่งวิตามินทั้ง 4 ชนิดนี้มีส่วนช่วยบำรุงและถนอมดวงตา ลดความอ่อนล้าจากการใช้สายตานาน ๆ

ลดอาการตาแห้งระคายเคือง เพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ดวงตา ฟื้นฟูดวงตาจากอาการเมื่อยล้า บำรุงดวงตาให้สดชื่น สุขภาพดี สะอาด ลดอาการปวดตา แสบตา ช่วยให้ดวงตาสะอาด ในทุก ๆ วันค่ะ

ข้อดี
ข้อด้อย

8.น้ำตาเทียม Silom Medical รุ่น Natear UD Lubricat Eye Drops 28Tubes

น้ำตาเทียม Silom Medical รุ่น Natear UD Lubricat Eye Drops 28Tubes ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ดวงตา และบรรเทาอาการระคายเคืองตาหรือตาแห้ง เหมาะสำหรับผู้ใส่คอนเเทคเลนส์และที่สำคัญปราศจากสารกันเสีย

วิธีใช้  หยอดตาครั้งละ 1-2 หยด วันละ 2-3ครั้ง หรือหยอดยา 2-3 หยดบนคอนแทคเลนส์ก่อนใส่เลนส์เข้าตาค่ะ

ข้อดี
ข้อด้อย

9.น้ำตาเทียม Santen รุ่น Hiaild 0.1

น้ำตาเทียม Santen รุ่น Hiaild 0.1 มีตัวยาสำคัญคือ Purified Sodium Hyaluronate ซึ่งเป็นสารชีวภาพ ที่มีคุณสมบัติอุ้มน้ำและมีประสิทธิภาพ

ในการสมานแผลให้หายเร็วขึ้น และใช้สำหรับสมานบาดแผลของผิวกระจกตา-ใช้รักษาผิวของเยื่อตาขาวที่เกิดร่วมกับอาการตาแห้ง

วิธีใช้  ใช้หยอดตาครั้งละ 1 หยด วันละ 5-6 ครั้ง

ข้อดี
ข้อด้อย

10.น้ำตาเทียม ALCON รุ่น Tear Naturale Free

น้ำตาเทียม ALCON รุ่น Tear Naturale Free รุ่นนี้เป็นสูตรพิเศษ ที่ปราศจากสารกันบูด หรือPreservativeจึงไม่ทำให้เกิดอาการระคายเคืองตาที่อาจเกิดจากสารกันบูดบางชนิดได้

น้ำตาเทียมรุ่นนี้เหมาะสำหรับผู้ที่สวมใส่คอนแทคเลนส์และผู้ที่มีอาการตาแห้ง พกพาสะดวกและสามารถใช้ได้ทุกวันหากใช้แล้วควรทิ้งในทันทีเพื่อป้องกันการปนเปื้อนของเชื้อโรคค่ะ

ข้อดี
ข้อด้อย

บทสรุป

เป็นยังไงกันบ้างคะกับ 10 อันดับน้ำตาเทียมที่เราได้แนะนำให้คุณในวันนี้และน้ำตาเทียมก็มีให้คุณได้เลือกมากมายหลายยี่ห้อ

และเราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าน้ำตาเทียมที่เราได้แนะนำให้คุณไปนั้นจะเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจซื้อของคุณได้ง่ายขึ้นนะคะพบกันใหม่ในบทความหน้าค่ะ