KJDOO.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาการใช้งานของคุณ อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่

เตาอบไมโครเวฟ

เตาอบไมโครเวฟ (Microwave Oven)

เตาอบไมโครเวฟ เริ่มมีการใช้เป็นครั้งแรกในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อ พ.ศ.2490 ในประเทศที่พัฒนาแล้ว โดยจัดเป็นเตาอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งเป็นผลพลอยได้จากการพัฒนาเรดาร์ การพัฒนาปรับปรุงเพื่อลดขนาดและราคาของเตาอบไมโครเวฟได้มีขึ้นในอีก 20 ปีต่อมา จนปัจจุบันกลายเป็นสิ่งอำนวยความสะดวกให้กับแม่บ้านในการประกอบอาหาร

เตาอบไมโครเวฟ ประกอบด้วย

เตาอบไมโครเวฟ

  • แมกนีตรอน
  • ส่วนควบคุมแมกนีตรอน (โดยทั่วไปใช้ ไมโครคอนโทรลเลอร์)
  • ท่อนำคลื่น หรือ เวฟไกด์ (waveguide)
  • ช่องสำหรับอบอาหาร
  • ลูกกรงฟาราเดย์
  • ประตูตู้

หลักในการทำงานของเตาอบไมโครเวฟ

เตาอบไม่โครเวฟทำให้อาหารสุกได้ เนื่องจากอาหารมีการดูดซับพลังงานคลื่นไว้และคลื่นไมโครเวฟทำให้โมเลกุลของน้ำในอาหารสั่นสะเทือนและชนกับโมเลกุลอื่น ๆ จนเกิดเป็นพลังงานจลน์ และพลังงานจลน์ที่เกิดขึ้นนั้นค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นพลังงานความร้อนแทน เป็นผลให้อาหารร้อนมากขึ้นจนกระทั่งสุก โดยภาชนะที่ใส่อาหารจะต้องทำจากวัสดุที่เม่ดูดกลืนไมโครเวฟ เช่น แก้ว กระดาษ เซรามิค หรือพลาสติกที่ระบุว่าใช้สำหรับไมโครเวฟ

เตาอบไมโครเวฟ

เมื่อเทียบกับการปรุงอาหารโดยใช้เตาอบธรรมดา ความร้อนที่เกิดจากเชื้อเพลิงไม่ว่าจะเป็นก๊าซหุงต้มหรือไฟฟ้าจะถูกส่งผ่านไปยังชิ้นอาหารโดยวิธีนำความร้อน อาหารจึงสุกจากภายนอกสู่ภายใน ในขณะที่เตาอบไมโครเวฟมีความร้อนเกิดขึ้นในอาหารตรงบริเวณที่มีน้ำอยู่เท่านั้น โดยที่รอบ ๆ อาหารจะไม่ร้อนเพราะไม่มีน้ำ ความร้อนของอาหารจะร้อนขึ้นพร้อมกันอย่างสม่ำเสมอตามการสั่นของสนามไฟฟ้า

ช่องสำหรับอบอาหารนั้นจะถูกล้อมไว้ด้วย กรงฟาราเดย์ เพื่อกักไม่ให้คลื่นหลุดลอดออกมาสู่ภายนอก ประตูตู้นั้นส่วนใหญ่จะเป็นกระจก ซึ่งจะมีขั้นที่เป็นลูกกรงทำด้วยสารตัวนำไฟฟ้าสำหรับกันคลื่น เนื่องจากข่ายลูกกรงนี้มีขนาดความกว้างของช่องเล็กกว่า ความยาวคลื่น คือ 12 เซนติเมตร คลื่นไมโครเวฟจึงไม่สามารถลอดผ่านออกมาได้ ในขณะที่ แสงสว่างผ่านลอดออกมาได้เนื่องจาก แสงมีความยาวคลื่นที่สั้นกว่ามาก

ปัญหาที่มีคนสงสัยว่าการถูกคลื่นไมโครเวฟโดยตรงจะเป็นอันตรายหรือไม่ ปกติแล้วการถูกคลื่นไมโครเวฟมักไม่เกิดขึ้นเนื่องจากเตาไมโครเวฟจะถูกปิดอย่างแน่นหนาและมี Safety switch ที่คอยควบคุมให้เครื่องทำงานก็ต่อเมื่อบานประตูถูกปิดสนิทแล้วเท่านั้น เนื่องจากคลื่นความถี่ไม่สูงพอจึงไม่เสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็ง

เตาอบไมโครเวฟ

ด้วยคุณสมบัติอันน่าทึ่งนี้ ทำให้เตาอบไมโครเวฟได้รับความนิยมมาก ในการใช้เตาอบไมโครเวฟนั้นจะได้รับคำเตือนว่าไม่ให้นำโลหะหรือภาชนะที่มีโลหะเป็นองค์ประกอบเข้าไปในเตา คลื่นไมโครเวฟเป็นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่ก่อให้เกิดสนามแม่เหล็กและไฟฟ้า และมีการสลับขั้วอย่างรวดเร็วตามความถี่ของคลื่น หากเป็นโลหะจะทำหน้าที่คล้ายสายอากาศรับคลื่น ถ้ามีจำนวนมากจะทำให้อากาศบริเวณนั้นแตกตัวเกิดเป็นประกายไฟได้

ประเภทของเตาไมโครเวฟ แบ่งออกเป็น 4 ประเภท

solo microwave oven

1. เตาอบไมโครเวฟธรรมดา (Solo Microwave Oven)

คือเตาอบทั่วไปที่ใช้หลักการทำงานของคลื่นไมโครเวฟอย่างเดียว ใช้สำหรับอบอาหาร อุ่นอาหาร ละลายน้ำแข็งและต้มค่ะ

2. เตาอบไมโครเวฟแบบย่าง (Grill Microwave Oven)

เตาอบชนิดนี้มาพร้อมกับแท่งหรือขดลวดความร้อน (Heat Coll คล้าย ๆ กับเตาอบไฟฟ้า) ที่ผนังด้านบน ทำให้เตาชนิดนี้สามารถใช้ย่างเนื้อ ย่างผัก หรืออบขนม อบพิซซ่าได้เหมือนเรามีเตาอบไฟฟ้าและเตาอบไมโครเวฟในกล่องเดียวกัน เวลาจะใช้งานจะต้องเลือกว่าจะใช้ไมโครเวฟอย่างเดียว หรือย่างอย่างเดียว

Convection Microwave Oven

3. เตาอบไมโครเวฟแบบอบลมร้อน (Convection Microwave Oven)

เตาชนิดนี้จะเหมือนกับการนำเอาเตาอบลมร้อนที่นิยมใช้ในการอบขนม (Convection Oven) รวมร่างกับเตาอบไมโครเวฟ โดยการอบลมร้อนจะมีแหล่งกำเนิดความร้อนจากด้านหลัง (อาจเป็นขดลวดความร้อนหรือหลอดไฟที่ให้ความร้อนสูง) และมีพัดลมเป่าอากาศร้อนนี้ให้หมุนเวียนภายในเตาอบ สามารถตั้งอุณหภูมิได้อย่างแม่นยำ ทำให้สามารถที่จะใช้อบขนมได้ดีมาก 

ในขณะเดียวกันก็ใช้ฟังก์ชั่นไมโครเวฟหรือย่างได้เหมือนกับเตาอบไมโครเวฟแบบย่าง แต่ว่าเตาอบชนิดนี้ราคาจะค่อนข้างสูง เพราะว่าเตาจะมีขนาดใหญ่กว่าเตาอบไมโครเวฟทั่วไป

Steam Microwave Oven

4. เตาอบไมโครเวฟแบบอบไอน้ำ (Steam Microwave Oven)

เตาชนิดนี้เพิ่งมีได้ไม่กี่ปีที่ผ่านมา เนื่องจากในประเทศตะวันตกมีการหันมาใช้เตาอบไอน้ำ (Steam (ven) เพื่อนึ่งผัก นึ่งปลากันมากขึ้นเนื่องจากการนึ่งจะรักษาวิตามินและเกลือแร่ให้อยู่กับอาหารได้ดีกว่าการต้ม จึงมีการนำเตาอบไอน้ำนี้เข้าไปรวมกับเตาอบไมโครเวฟ ทำให้สามารถใช้นึ่งอาหารได้ด้วย ซึ่งไอน้ำจะช่วยทำให้อาหารดูสด ใหม่ น่ารับประทาน ไม่แห้งจนเกินไป

วิธีการเลือกซื้อเตาอบไมโครเวฟ

  1. เลือกขนาดของเตาอบไมโครเวฟ ควรเลือกซื้อรุ่นที่กินกำลังไฟน้อย เพราะจะช่วยประหยัดไฟ
  2. ตรวจดูโครงสร้างหรือวัสดุของเตาไมโครเวฟ นอกจากเรื่องความแข็งแรงทนทานแล้ว ควรจะดูไปถึงวัสดุที่ใช้ว่าทนความร้อนได้มากแค่ไหน มีระบบความปลอดภัยเป็นอย่างไร และสามารถทำความสะอาดได้ง่ายหรือไม่
  3. เลือกซื้อเตาไมโครเวฟที่มีฟังก์ชั่นการใช้งานพิเศษ เช่น เตาไมโครเวฟที่สามารถทำให้อาหารร้อนและสุกเกรียมได้

การดูแลรักษาเตาอบไมโครเวฟ

  1. ถอดปลั๊กออกเมื่อไม่ใช้งา
  2. ดูแลรักษาให้สะอาดอยู่เสมอ
  3. ภายนอกของเตาอบไมโครเวฟให้ใช้น้ำกับสบู่เช็ดทำความสะอาด
  4. จานแก้วในเตาไมโครเวฟทำความสะอาดได้ด้วยน้ำอุ่นผสมสบู่แล้วเช็ดให้แห้ง
  5. ควรตั้งเตาอบไมโครเวฟไว้ในที่ที่มีอากาศถ่ายเทได้ดี

บทความแนะนำสำหรับคุณ

[ratings]