KJDOO.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาการใช้งานของคุณ อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่

10 อันดับ เครื่องดูดฝุ่นแบบไหนดี ใช้งานง่าย ทำความสะอาดเกลี้ยงถูกใจแม่บ้าน

เครื่องดูดฝุ่นเป็นอุปกรณ์ทำความสะอาดที่ขาดไม่ได้สำหรับทุกครัวเรือน แต่การเลือกซื้อให้เหมาะกับการใช้งานนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย คำถามที่หลายคนสงสัยคือ “เครื่องดูดฝุ่นแบบไหนดี” ที่จะตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในปัจจุบันมีเครื่องดูดฝุ่นหลากหลายรูปแบบให้เลือก ทั้งแบบมีสาย ไร้สาย หุ่นยนต์ และแบบมือถือ แต่ละประเภทมีจุดเด่นและข้อจำกัดแตกต่างกัน การเลือกซื้อจึงควรพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ เช่น พื้นที่ใช้งาน กำลังไฟ ความจุถังเก็บฝุ่น และฟังก์ชันพิเศษ เพื่อให้ได้เครื่องดูดฝุ่นที่ใช้งานง่ายและทำความสะอาดได้อย่างทั่วถึง ตอบโจทย์ความต้องการของแม่บ้านยุคใหม่

ประเภทเครื่องดูดฝุ่นแบบไหนใช้งานง่าย

  1. เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย
    • ข้อดี : ไม่มีสายไฟรบกวน น้ำหนักเบา เคลื่อนย้ายสะดวก สามารถเข้าถึงทุกซอกมุมของบ้านได้ง่าย
    • ข้อเสีย : ราคาสูงกว่าเครื่องดูดฝุ่นแบบมีสาย และมีเวลาในการใช้งานจำกัดเนื่องจากแบตเตอรี่
  2. เครื่องดูดฝุ่นแบบมีสาย
    • ข้อดี : พลังดูดสูง สามารถใช้งานได้ต่อเนื่องไม่ต้องกังวลเรื่องแบตเตอรี่
    • ข้อเสีย : มีน้ำหนักและสายไฟที่จำกัดความคล่องตัว
  3. หุ่นยนต์ทำความสะอาด
    • ข้อดี : ทำความสะอาดอัตโนมัติ ประหยัดแรงและเวลา สามารถควบคุมผ่านแอปพลิเคชัน
    • ข้อเสีย : ราคาสูงกว่าเครื่องดูดฝุ่นแบบอื่น ๆ

วิธีเลือกซื้อเครื่องดูดฝุ่น 2024

การเลือกซื้อเครื่องดูดฝุ่นในปี 2024 ควรพิจารณาหลายปัจจัยเพื่อให้ได้เครื่องที่เหมาะสมกับการใช้งานและคุ้มค่าที่สุด ดังนี้

1. ประเภทของเครื่องดูดฝุ่น

  • แบบมีสาย : มีพลังดูดสูงและใช้งานได้ต่อเนื่อง เหมาะสำหรับบ้านที่มีพื้นที่กว้าง
  • แบบไร้สาย : สะดวกในการเคลื่อนย้าย เหมาะสำหรับพื้นที่เล็กหรือการทำความสะอาดเฉพาะจุด
  • หุ่นยนต์ดูดฝุ่น : เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความสะดวกสบายในการทำความสะอาดอัตโนมัติ

2. กำลังดูดและพลังงาน

  • เลือกเครื่องที่มีกำลังดูดสูง โดยทั่วไปควรมีพลังงานอย่างน้อย 600 วัตต์ และกำลังดูดประมาณ 15,000 PA ขึ้นไป เพื่อประสิทธิภาพในการทำความสะอาดสูงสุด.
อ่านบทความเกี่ยวข้อง  เตาอบไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี

3. ระบบกรองฝุ่น

  • เครื่องที่มีแผ่นกรอง HEPA จะช่วยกรองฝุ่นละอองและสารก่อภูมิแพ้ได้ดี เหมาะสำหรับบ้านที่มีผู้ที่เป็นภูมิแพ้หรือมีสัตว์เลี้ยง

4. ขนาดและน้ำหนัก

  • เลือกเครื่องที่มีขนาดและน้ำหนักที่เหมาะสมกับพื้นที่และความสะดวกในการใช้งาน หากมีพื้นที่จำกัดควรเลือกเครื่องที่มีขนาดเล็กและน้ำหนักเบา

5. ฟังก์ชันพิเศษ

  • ฟังก์ชันปรับระดับแรงดูด, หัวดูดหลายแบบ, และการทำงานแบบเงียบจะช่วยให้การทำความสะอาดมีประสิทธิภาพและสะดวกสบายมากขึ้น

6. การบำรุงรักษา

  • เลือกเครื่องที่ดูแลรักษาง่าย เช่น แบบถอดล้างได้ และมีการแจ้งเตือนเมื่อถังเก็บฝุ่นเต็มหรือแผ่นกรองสกปรก

7. ราคาและการรับประกัน

  • ตรวจสอบราคาและการรับประกันเพื่อให้มั่นใจว่าได้รับสินค้าที่คุ้มค่าและมีการบริการหลังการขายที่ดี

10 อันดับ เครื่องดูดฝุ่นแบบไหนดี

1.เครื่องดูดฝุ่น TIXX รุ่น GHA-108

รายละเอียดสินค้า

เครื่องดูดฝุ่นแบบมือถือ มีสาย รุ่น GHA-108 เป็นเครื่องดูดฝุ่นที่มีประสิทธิภาพสูง ด้วยระดับสูญากาศที่ 16000PA และกำลังไฟ 400W ทำให้สามารถดูดฝุ่นได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ วัสดุแปรงชั้นทำจาก ABS ที่ทนทาน พร้อมไส้กรอง HEPA ที่ช่วยกรองฝุ่นละอองขนาดเล็กได้อย่างดีเยี่ยม เสียงรบกวนเพียง 50dB ทำให้ใช้งานได้โดยไม่รบกวนผู้อื่น ความยาวสายไฟ 5 เมตร ช่วยให้เคลื่อนย้ายได้สะดวก น้ำหนักเบาเพียง 1.2 กิโลกรัม

ข้อดี
ข้อด้อย

แนะนำเครื่องดูดฝุ่นรุ่นนี้สำหรับผู้ที่ต้องการเครื่องดูดฝุ่นที่มีประสิทธิภาพสูงและใช้งานง่าย

2.เครื่องดูดฝุ่น SHARP รุ่น EC-NS16-R

รายละเอียดสินค้า

เครื่องดูดฝุ่น SHARP รุ่น EC-NS16-R มีกำลังไฟ 1,600 วัตต์ และกำลังการดูด 200 วัตต์ ใช้กล่องเก็บฝุ่นความจุ 1.0 ลิตร พร้อมไฟสัญญาณเตือนแบบ LED มีระบบกรองฝุ่น 4 ขั้นตอน พร้อม HEPA Filter หัวดูดพื้นปรับได้สำหรับพื้นแข็งและพรม รวมถึงหัวดูดเล็ก 3 ชิ้นสำหรับซอกมุม โซฟา และเฟอร์นิเจอร์ ท่อทำจากพลาสติก ความยาวท่อต่อ 48.5 / 80.5 ซม. สายไฟยาว 5 เมตร ขนาดเครื่อง 282 × 364 × 245 มม. น้ำหนัก 5.3 กก. รับประกัน 1 ปี

ข้อดี
ข้อด้อย

หากคุณกำลังมองหา เครื่องดูดฝุ่น ยี่ห้อไหนดี 2567 รุ่นนี้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ

3.เครื่องดูดฝุ่น SHARP รุ่น EC-SC42B-B

รายละเอียดสินค้า

อ่านบทความเกี่ยวข้อง  ชุดโต๊ะอาหาร แบบไหนไหนดี

เครื่องดูดฝุ่น SHARP รุ่น EC-SC42B-B เป็นเครื่องดูดฝุ่นแบบ 2-in-1 ที่สามารถใช้งานได้ทั้งแบบด้ามจับและแบบมือถือ น้ำหนักเบาเพียง 1.9 กิโลกรัม ทำให้ใช้งานง่ายและสะดวกในการเคลื่อนย้าย มีระบบพลังไซโคลนที่ให้พลังดูดแรงและต่อเนื่อง มาพร้อมกับหัวดูดฝุ่น 3 แบบที่สามารถทำความสะอาดได้ทั้งพื้นพรม โซฟา และซอกเล็กๆ กระบอกเก็บฝุ่นสามารถถอดทำความสะอาดได้ง่ายด้วยการกดปุ่มเดียว ความจุการเก็บฝุ่น 0.35 ลิตร และมีสายไฟยาว 5 เมตร

ข้อดี
ข้อด้อย

4. เครื่องดูดฝุ่น IMARFLEX รุ่น VC-912

รายละเอียดสินค้า

เครื่องดูดฝุ่น Imarflex รุ่น VC-912 มีกำลังไฟฟ้า 1700 วัตต์ แรงดันไฟฟ้า 220V 50Hz ตัวเครื่องทำจากพลาสติก ABS ทนทานต่อการใช้งานยาวนาน ฝาด้านบนใสช่วยให้ดูสะอาดและทันสมัย สายไฟยาวพิเศษ 5 เมตร เพิ่มความสะดวกในการใช้งาน พร้อมระบบม้วนสายเก็บอัตโนมัติ มีล้อเลื่อนเพื่อการเคลื่อนย้ายสะดวก ระบบปรับแรงลมที่มือจับ และปรับระดับความแรงแบบหมุนที่ตัวเครื่อง มีช่องระบายความร้อนช่วยลดความร้อนจากการทำงาน ขนาดรวมกล่อง 385 x 305 x 250 มม.

ข้อดี
ข้อด้อย

เครื่องดูดฝุ่นแบบไหนดี? Imarflex รุ่น VC-912 เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการเครื่องดูดฝุ่นที่มีพลังดูดสูงและใช้งานง่ายในทุกพื้นที่

5. เครื่องดูดฝุ่น IMARFLEX รุ่น VC-902

รายละเอียดสินค้า

เครื่องดูดฝุ่นแบบด้ามจับ Imarflex รุ่น VC-902 มีกำลังไฟ 600 วัตต์และความจุถังเก็บฝุ่น 0.8 ลิตร สามารถปรับใช้งานแบบมือถือได้ในตัวเดียวกัน มีระบบกรอง HEPA ที่สามารถกรองฝุ่นขนาดเล็กได้อย่างมีประสิทธิภาพ ถังเก็บฝุ่นเป็นแบบใสและมีคลิปล็อคเพื่อความสะดวกในการเปิด/ปิดและเทฝุ่น ตัวเครื่องสามารถถอดแยกกับตัวต่อแบบยาวได้ มีหัวแปรง 3 แบบสำหรับการดูดพื้น ดูดตามซอก และหัวแปรง ตัวเครื่องผลิตจากพลาสติกคุณภาพดี มีความทนทาน สายไฟยาว 4 เมตร และความสูงของตัวเครื่อง 118 เซนติเมตร มีให้เลือก 2 สี คือสีเขียวและสีฟ้า สินค้ารับประกัน 1 ปี

ข้อดี
ข้อด้อย

6. เครื่องดูดฝุ่น IMARFLEX รุ่น VC-909

รายละเอียดสินค้า

เครื่องดูดฝุ่นนี้มาพร้อมกับการรับประกัน 1 ปี ตัวเครื่องทำจากพลาสติก ABS พ่นสี Metallic ทนความร้อนสูง มีหัวแปรงดูดฝุ่นขนาดใหญ่และหัวแปรงเล็กสำหรับดูดซอกและมุม ระบบกรองฝุ่น 5 ชั้น ฟิลเตอร์ HEPA ที่ใช้ในเครื่องฟอกอากาศ ปรับความแรงลมได้ตามต้องการ มีช่องระบายความร้อนด้านหลัง ความจุฝุ่น 4 ลิตร ไม่ต้องใช้ถุงเก็บฝุ่น สายไฟยาว 3 เมตร พร้อมระบบเก็บสายไฟอัตโนมัติ แรงดันไฟฟ้า 220 V.50Hz กำลังไฟฟ้า 2000 วัตต์

ข้อดี
ข้อด้อย

7. เครื่องดูดฝุ่น HITACHI รุ่น CV-BU16

รายละเอียดสินค้า

เครื่องดูดฝุ่น Hitachi รุ่น CV-BU16 มีกำลังมอเตอร์ 1,600 วัตต์ และกำลังดูดสูงสุด 350 วัตต์ มาพร้อมถุงผ้าจุฝุ่นได้ 1.5 ลิตร ทนทานและสามารถล้างน้ำได้ ระบบกรองฝุ่น 4 ขั้นตอนช่วยให้การกรองฝุ่นมีประสิทธิภาพ ขนาดกระทัดรัดและน้ำหนักเบา ทำให้สะดวกต่อการเคลื่อนย้ายและจัดเก็บ เหมาะสำหรับผู้ที่กำลังมองหาเครื่องดูดฝุ่นแบบไหนดีที่มีประสิทธิภาพสูงในราคาที่คุ้มค่า

ข้อดี
ข้อด้อย

8.เครื่องดูดฝุ่น HITACHI รุ่น CV-930F

รายละเอียดสินค้า

เครื่องดูดฝุ่น Hitachi รุ่น CV-930F มีกำลังมอเตอร์ 1600 วัตต์ พร้อมปุ่มปรับเพิ่ม-ลดแรงดูดและฟังก์ชั่นเป่าลม แผ่นกรองฝุ่นชนิดผ้าสามารถล้างน้ำได้ ความจุฝุ่นสูงถึง 12.0 ลิตร มีระบบเตือนฝุ่นเต็มและระบบกรองมาตรฐาน สายดูดปรับหมุนได้รอบทิศทาง มีที่เก็บอุปกรณ์ และความยาวสายไฟ 5 เมตร

อ่านบทความเกี่ยวข้อง  เครื่องขัดพื้น ยี่ห้อไหนดี ขัดพื้นปูน ไม้ กระเบื้อง
ข้อดี
ข้อด้อย

9. เครื่องดูดฝุ่น XIAOMI รุ่น VC20

รายละเอียดสินค้า

เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย Deerma VC20 PLUS เป็นรุ่นอัพเกรดที่มาพร้อมการปรับปรุงหลายด้าน ด้วยน้ำหนักเบาเพียง 1 กก. ทำให้ใช้งานได้สะดวกในทุกพื้นที่ แรงดูดเพิ่มขึ้นถึง 8000Pa ช่วยกำจัดฝุ่นและสิ่งสกปรกได้อย่างมีประสิทธิภาพ มอเตอร์ขนาด 150W ให้พลังการทำงานสูงขึ้น 50% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อน แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนความจุ 2200mAh ใช้งานได้นานถึง 30 นาทีในโหมดปกติ หัวดูดบางเพียง 47 มม. เข้าถึงพื้นที่แคบได้ง่าย ถังเก็บฝุ่นขนาด 0.6 ลิตรจุได้มาก ได้รับรางวัลการออกแบบจากเยอรมนีและเกาหลี

ข้อดี
ข้อด้อย

10. เครื่องดูดฝุ่น XIAOMI รุ่น LPMY-017

รายละเอียดสินค้า

เครื่องดูดฝุ่น XIAOMI รุ่น XMSDJ001 เป็นเครื่องดูดฝุ่นขนาดเล็กที่ออกแบบมาเพื่อการใช้งานในบ้าน ด้วยขนาดที่กะทัดรัด 24024050 มม. และน้ำหนักเพียง 0.75 กก. ทำให้เคลื่อนย้ายและจัดเก็บได้ง่าย ตัวเครื่องทำจากวัสดุ ABS ที่ทนทานและมีความจุถังเก็บฝุ่น 0.3 ลิตร ใช้พลังงานจากพอร์ต USB โดยมีแรงดันไฟฟ้าอินพุต DC 5V และกำลังไฟ 4W เหมาะสำหรับพื้นที่ใช้งานไม่เกิน 70 ตารางเมตร

ข้อดี
ข้อด้อย

สรุป

การเลือกซื้อเครื่องดูดฝุ่นที่เหมาะสมจะช่วยให้การทำความสะอาดบ้านเป็นเรื่องง่ายและรวดเร็วยิ่งขึ้น คำถามที่ว่า เครื่องดูดฝุ่นแบบไหนดี นั้นขึ้นอยู่กับความต้องการเฉพาะของแต่ละครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นแบบมีสาย ไร้สาย หรือหุ่นยนต์ ล้วนมีข้อดีที่แตกต่างกัน สิ่งสำคัญคือการพิจารณาคุณสมบัติต่าง ๆ ให้ตรงกับการใช้งานจริง เพื่อให้ได้เครื่องดูดฝุ่นที่ใช้งานง่าย ทำความสะอาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ และคุ้มค่ากับการลงทุน ช่วยให้บ้านสะอาดเกลี้ยงเกลาอย่างที่แม่บ้านต้องการ