KJDOO.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาการใช้งานของคุณ อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่

ของขวัญสำหรับการอวยพรวันเกิดของแต่ละประเทศ

ต่อให้แต่ละประเทศจะมีธรรมเนียมหรือเทศกาลสำคัญแตกต่างกันอย่างไร อย่างน้อยก็จะมีการจัดงานวันเกิดนี่แหละที่ต้องมีในทุกประเทศ รูปแบบการจัดงานก็จะคล้ายคลึงกัน มีการ อวยพรวันเกิด

ของขวัญสำหรับการอวยพรวันเกิดของแต่ละประเทศ

สำหรับเจ้าของวันเกิดพร้อมกับมอบของขวัญที่ตั้งใจเตรียมมาให้ ความน่าสนใจอยู่ที่วิธีการอวยพรและแนวคิดในการเลือกของขวัญของแต่ละประเทศนั่นเอง ในวันนี้เราจึงมีธรรมเนียมของประเทศต่างๆ ที่เราคุ้นเคยกันดีมาแนะนำ

ดูสิว่าเขา อวยพรวันเกิด กันแบบไหน เผื่อว่าเรามีเพื่อนที่เป็นชาวต่างชาติจะได้ทำได้ถูกต้องเหมาะสม หรือแม้แต่การนำมาปรับใช้เพื่อสร้างความแปลกใหม่ในเทศกาลวันเกิดโอกาสหน้าก็ได้เหมือนกัน

เมืองจีนแผ่นดินใหญ่ที่มีประชากรหนาแน่นและมีขนบธรรมเนียมประเพณีที่ค่อนข้างเคร่งครัด แน่นอนว่าจะมีพิธีรีตองสำหรับงานวันเกิดค่อนข้างมากด้วย แต่ในส่วนของผู้ร่วมงานที่ไม่ใช่เจ้าของวันเกิด

เราแค่รู้พอเป็นพิธีว่าการ อวยพรวันเกิด ที่เหมาะสมควรเป็นอย่างไรก็พอแล้ว อย่างแรกก็คือเฉดสี เรารู้กันดีว่า สีแดงเป็นสีนำโชคของชาวจีน ดังนั้นของขวัญหรือของฝากในทุกเทศกาลจะต้องมีสีแดงเป็นหลัก วันเกิดก็เช่นเดียวกัน

แนะนำให้ห่อของขวัญเป็นสีแดงและสีทองผสมกัน จะใช้เป็นกระดาษแดงแล้วริบบิ้นทองก็ได้ หรือถ้ารู้สึกว่าสีทองดูโบราณเกินไป ก็แซมด้วยสีเงิน สีน้ำเงิน หรือสีขาวก็ได้

ประเทศจีน

ผลไม้

ประเภทของขวัญที่นิยมจะเป็นเครื่องหอมต่างๆ ดอกไม้ และผลไม้ เชื่อว่ามีความหมายเป็น อวยพรวันเกิด ให้เจ้าของวันเกิดมีสุขภาพที่ดีนั่นเอง

2. ประเทศออสเตรเลีย

หลายคนอาจนึกภาพไม่ออกว่าธรรมเนียมของทางฝั่งนี้จะเป็นอย่างไร  แต่สิ่งหนึ่งที่จะนึกได้ก็คือเมืองของเขาค่อนข้างมีธรรมชาติมาก คนทำการเกษตรในครัวเรือนก็ไม่น้อย รูปแบบการใช้ชีวิตก็เป็นแบบมินิมอลแต่แฝงความหมายค่อนข้างเยอะ

สไตล์การ อวยพรวันเกิด จึงนิยมให้ของขวัญชิ้นเล็กๆ มากกว่าชิ้นใหญ่ มักเป็นของที่ไม่ได้มีมูลค่าสูงนัก อาจเป็นเพียงผลไม้จากสวนที่บ้าน ขนม ของใช้ส่วนตัวที่ใช้ได้ทุกๆ วัน

ขนม

เหตุผลที่เราไม่ควรซื้อของชิ้นใหญ่หรือของที่มีมูลค่าสูงให้กับคนออสเตรเลียก็คือ เขาจะคิดว่าสิ่งที่เราให้นั้นจะต้องมีการตอบแทนบางอย่าง เขาจะมองว่าเราคาดหวังอะไรจากเขา ดีไม่ดีจะทำให้ความสัมพันธ์แย่ลงด้วย

และอีกธรรมเนียมหนึ่งที่มาคู่กันก็คือเจ้าของวันเกิดจะต้องเปิดกล่องของขวัญที่ได้รับมาต่อหน้าผู้ใหญ่ เพื่อเป็นการตอบแทน ผู้ให้จะได้เห็นปฏิกิริยาว่าผู้รับชื่นชอบมากน้อยแค่ไหน ซึ่งถ้าเป็นในบ้านเราก็ดูสุ่มเสี่ยงอยู่เหมือนกันนะ

3. ประเทศเวียดนาม

สมุดบันทึก นาฬิกา

การ อวยพรวันเกิด ให้คนเวียดนานจึงต้องเป็นของขวัญที่สื่อความหมายบางอย่าง เช่น สมุดบันทึก นาฬิกา เป็นต้น โดยเฉพาะนาฬิกา เป็นของขวัญยอดนิยมเลยทีเดียว เพราะมันมีความหมายว่าทั้งคู่ ผู้ให้และผู้รับ เคยมีช่วงเวลาที่ดีต่อกัน

เพื่อนบ้านไม่ใกล้ไม่ไกลของเรานี่เอง เมืองนี้มีพืชผักอุดมสมบูรณ์มาก แต่เมืองก็มีพื้นที่ไม่มากนักด้วยรูปลักษณ์ของประเทศนั่นเอง อุปนิสัยและธรรมเนียมก็ถือว่าคล้ายคลึงกับบ้านเรา ผู้คนมีความละเอียดลึกซึ่งกับความผูกพันและเรื่องราวในอดีต

vietname

และจะจดจำเรื่องราวในช่วงเวลาเหล่านั้นเรื่อยไป เป็นมิตรภาพอันดีนั่นเอง และแน่นอนว่าต้องมีของต้องห้ามในการ อวยพรวันเกิด ด้วย โดยความเชื่อก็จะคล้ายกับบ้านเรา เช่น ไม่เอาของที่ดูเศร้าโศก ไม่เอาผ้าเช็ดหน้า เป็นต้น

4. ประเทศญี่ปุ่น

เมืองมินิมอลที่ประณีตในทุกๆ อย่าง ใครที่เคยไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่นมาแล้วก็จะรู้ดีว่าประเทศนี้มีความน่ารักและมีความละเอียด ตั้งแต่ผู้คน วิถีชีวิต อาหาร ที่อยู่อาศัย เราจะเห็นความเป็นตัวตนของคนญี่ปุ่นแฝงอยู่ในทุกๆ อย่าง

ดังนั้นของขวัญสำหรับการ อวยพรวันเกิด จะต้องเป็นงานประณีตด้วย เพื่อสื่อความตั้งใจของผู้ให้ว่าไม่ได้เลือกมาแบบส่งๆ แต่ตั้งใจนำมาให้โดยเฉพาะ เราจึงได้เห็นว่าผู้หญิงมักจะลงมือทำขนมหรือช็อคโกแลตให้กับผู้ชาย

chocolate

รสชาติอาจไม่อร่อยเท่ากับซื้อของแพงๆ แต่มันเป็นของที่ทำด้วยมือ ทำด้วยความตั้งใจ แบบนี้จะถูกใจคนญี่ปุ่นอย่างมาก นอกจากความประณีตแล้วก็มีเรื่องของตัวเลขเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย หากของขวัญที่เราเตรียมไว้เป็นของที่มีหลายชิ้น

เช่น ช่อดอกไม้ที่มีดอกไม้หลายดอก ช็อคโกแลตที่มีจำนวนหลายชิ้น จะต้องระวังไม่ให้มีจำนวนที่เป็นตัวเลขไม่ดี เช่น 4 หรือ 13 เพราะเขาเชื่อว่ามันจะนำโชคร้ายมาให้ ยิ่งถ้ามา อวยพรวันเกิด ด้วยแล้วก็ยิ่งรุนแรงเข้าไปใหญ่

5. ประเทศเบลเยี่ยม

หากจะมองหาช็อคโกแลตที่ดีที่สุด ก็ต้องนึกถึงประเทศเบลเยี่ยมเป็นอันดับแรก เพราะนี่คือแหล่งผลิตคุณภาพสูง แม้ว่าคนเบลเยี่ยมจะดูเหมือนเป็นคนง่ายๆ อะไรก็ได้ แต่การ อวยพรวันเกิด ก็มีเงื่อนไขอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน

อย่างแรกเลยก็คือห้ามนำช็อคโกแลตไปให้เป็นของขวัญเด็ดขาด ก็ในเมื่อบ้านเขามีของดีมากๆ อยู่แล้ว เราสรรหาของที่เขามีดีไปให้มันจะเหมือนเป็นการดูถูกกัน กลายเป็นการทำลายความสัมพันธ์โดยไม่ได้ตั้งใจไป แต่ชาวเบลเยี่ยมสามารถให้ช็อคโกแลตเราได้นะ ก็เหมือนเรามีของดีจะเอาให้เพื่อนก็ไม่ผิดแปลกอะไร ต่อมาคือการให้ดอกไม้ ประเด็นอยู่ที่ดอกกุหลาบแดง

ไม่ค่อยเหมาะที่จะหยิบมาใช้บ่อยๆ เพราะมันสื่อถึงความรักอย่างชัดเจน เขาจะให้คนที่รักเท่านั้น หากอยากให้ดอกไม้ควรเลือกเป็นดอกไม้ประเภทอื่นแทนจะดีกว่า

ห้ามช็อคโกแลต

6. ประเทศฝรั่งเศส

เมืองน้ำหอมผู้ดีสุดๆ แบบนี้ มีความโรแมนติกอยู่ในตัว ทั้งเรื่องอุณหภูมิ บรรยากาศ ตึกรามบ้านช่อง ทุกอย่างดูเหมือนหนังรักสุดคลาสสิคอยู่เหมือนกัน คนทั่วไปดูจะมีรสนิยมค่อนข้างสูง

จนหลายคนที่มีเพื่อนเป็นชาวฝรั่งเศสเริ่มกังวลใจกับการ อวยพรวันเกิด ไม่รู้จะเลือกของขวัญแบบไหนดี กลัวจะผิดธรรมเนียมไปหมด ขอบอกเลยว่าประเทศฝรั่งเศสเป็นอีกประเทศหนึ่งที่ไม่ได้มีความยุ่งยากในการ อวยพรวันเกิด

น้ำหอม

ประเทศจีน

แต่อย่างใด ให้อะไรก็ได้ ไม่ต้องเป็นของประณีตระดับพรีเมียมก็ได้ ขอแค่ระวังเรื่องที่จะกระทบกระเทือนความรู้สึกกันสักเล็กน้อย คือ ห้ามให้ดอกลิลลี่กับดอกมัม เพราะดอกไม้ 2 ชนิดนี้ถูกใช้ในงานศพของบ้านเรา

เทียบให้เห็นภาพง่ายๆ ก็คล้ายกับดอกลั่นทมในบ้านเรานั่นเอง ดอกคาร์เนชั่นสีแดงก็ไม่ควร หากเจอคนที่ถือเรื่องความหมายของดอกไม้มากๆ

คนให้จะวางตัวลำบาก ในประเทศฝรั่งเศส ดอกคาร์เนชั่นสีแดงสื่อถึงความมุ่งร้าย คนที่ให้จะคิดไม่ดีกับคนรับอย่างแน่นอน

7. ประเทศอังกฤษ

เมืองผู้ดีเก่าที่หลายคนอยากไปสัมผัสนักหนา ที่นี่เป็นอีกประเทศที่มีการเฉลิมฉลองบ่อยมาก สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยในงานรื่นเริงต่างๆ คือสีสันและแอลกอฮอล์ ตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับการ อวยพรวันเกิด ให้กับชาวอังกฤษ

จึงเป็นการถือแชมเปญดีๆ สักขวดไปให้ แค่นี้ก็ปลื้มใจมากแล้ว อาจจะมีช็อคโกแลตติดไปด้วยก็ได้ จริงๆ แล้วเราสามารถซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิดเป็นของขวัญได้ แต่เราต้องรู้จักเจ้าของวันเกิดดีพอสมควร

england

แชมเปญ

เพราะถ้าเขาไม่ชอบวิสกี้แต่เราดันซื้อไปให้ อันนี้ก็ดูแปลกๆ นิดหน่อย ยิ่งถ้าเป็นคนขี้น้อยใจ จะพาลคิดว่าเราไม่เคยรู้จักและไม่เคยใส่ใจเรื่องเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้เลย แต่แชมเปญเป็นเหมือนเครื่องดื่มสากลที่มอบให้กับทุกคนได้เลย

เราก็ได้เห็นธรรมเนียมการให้ของขวัญของแต่ละประเทศมาพอสมควรแล้ว เราก็อาจจะคิดว่าแปลกดีใช่ไหม บางอย่างก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมต้องคิดมากขนาดนั้น มันเป็นความแตกต่างเกี่ยวกับวิถีชีวิต แนวคิดและวัฒนธรรม ซึ่งจริงๆ แล้วชาวต่างชาติที่เข้ามารู้จักคนไทย ก็มองธรรมเนียมการใช้ของขวัญเพื่อ อวยพรวันเกิด ของเราว่าแตกต่าง และเป็นเรื่องใหม่สำหรับเขาเหมือนกัน อยากรู้ไหมว่าชาวต่างชาติคิดว่าอะไรเป็นเรื่องแปลกบ้าง ไปดูกันเลย

อ่านบทความเกี่ยวข้อง  5 วิธีง่ายๆ ในการเลือกซื้อ คอกกั้นเด็ก

หลักการใช้ของขวัญเพื่ออวยพรวันเกิด!!

1. ห้ามแกะของขวัญต่อหน้าคนอื่น

ปกติแล้วพอเรามอบของขวัญให้เจ้าของวันเกิด เขาก็จะวางรวมไว้ที่หนึ่ง โดยไม่แกะออกดูทันทีเหมือนหลายๆ ประเทศ จะรอจนกว่างานเลี้ยงสิ้นสุดลงและคนอื่นๆ แยกย้ายกลับไปหมดแล้ว ถึงจะได้เวลาแกะของขวัญเหล่านั้น

ห้ามแกะของขวัญต่อหน้าคนอื่น

gold

2. ของขวัญยิ่งมีมูลค่าก็ยิ่งดี

โดยเฉพาของขวัญที่เด็กมอบให้กับผู้ใหญ่ ราวกับว่าต้องสมฐานะและสมหน้าตาของผู้รับ หากไม่เป็นของชิ้นใหญ่ ก็ต้องเป็นชิ้นเล็กที่มีราคา การ อวยพรวันเกิด นั้นจึงจะสื่อความหมายได้ว่าชื่นชอบและเคารพกันจริง

3. ห้ามให้ของขวัญเป็นผ้าเช็ดหน้า

ตามความเชื่อก็คือ การ อวยพรวันเกิด ด้วยการให้ผ้าเช็ดหน้า มันเป็นลางบอกเหตุว่าจะต้องเกิดการสูญเสีย เพราะมีผ้าเช็ดหน้าเอาไว้ซับน้ำตา ไม่เป็นการจากลาระหว่างเจ้าของวันเกิดกับผู้ให้ก็เป็นใครสักคนในครอบครัวของเจ้าของวันเกิดที่จะต้องมีอันเป็นไป

ห้ามให้ของขวัญเป็นผ้าเช็ดหน้า

เค้กวันเกิด

4. ถ้าของขวัญเป็นเค้ก ต้องปักเทียนเกินอายุ

ความเชื่อก็คือจำนวนเทียนแทนอายุของเจ้าของวันเกิด การปักเทียนให้เกินอายุจริงไป 1 เล่มเป็นการ อวยพรวันเกิด ว่าให้มีอายุยืนยาวต่อไป สุขภาพแข็งแรง

5. ห้ามมอบของขวัญที่ถูกห่อด้วยกระดาษสีดำ

ถุงกระดาษสีดำ

กรณีที่ของขวัญมีสีดำอยู่แล้ว เช่น เป้สีดำ หมวกสีดำ เป็นต้น แบบนี้ต้องหากล่องใส่และห่อด้วยกระดาษห่อของขวัญลวดลายน่ารักสดใส ห้ามใช้กระดาษสีดำหรือโทนสีใกล้เคียงเด็ดขาด เพราะมันเหมือนกับงานศพที่มีแต่ความเศร้าโศกเสียใจ

6. ห้ามสวมชุดดำไปงานวันเกิด

นอกจากของขวัญที่ถือไปแล้ว คนที่ไปร่วมงานก็ต้องระวังการแต่งกายด้วย อย่าใส่สีดำไปเป็นอันขาด เพราะคนไทยใส่สีดำไปงานศพเป็นหลัก เจ้าของวันเกิดอาจรู้สึกไม่ดีและคิดว่าเป็นลางร้าย ประมาณว่าไปงานวันเกิดเหมือนไปงานศพนั่นเอง

ชุดดำ

7. ไม่สนิทอย่าคิดให้นาฬิกา

นาฬิกามีความหมายที่น่าสนใจ เรียกว่าเป็นการถือเคล็ดก็ได้ มันสื่อถึงเวลา ยิ่งนาฬิกาเดินไปเท่าไร เวลาก็ยิ่งสั้นลง จึงไม่เหมาะที่จะเอามาเป็นความหมายในการ อวยพรวันเกิด ให้กับเจ้าของวันเกิด แต่ความคิดนี้ก็ถือว่าค่อนข้างเก่ามากแล้ว และอาจจะมีคนยึดถือไม่มากเท่าไร

ไม่สนิทอย่าคิดให้นาฬิกา

ของมีคม

8. ห้ามให้ของขวัญเป็นของมีคม

อย่างแรกเลยคือมันสุ่มเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายได้ เพราะขณะเปิดของขวัญเจ้าของวันเกิดไม่ได้รู้ล่วงหน้าว่าข้างในคืออะไร