KJDOO.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาการใช้งานของคุณ อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่

น้ำมันปลา (Fish Oil) ยี่ห้อไหนดี

การที่เราจะมีสุขภาพดี ร่างกายแข็งแรง ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บแล้ว ทุกคนให้ความสำคัญกับการทานอาหารที่มีประโยชน์ ให้ครบ 5 หมู่ หรือการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ การพักผ่อนที่เพียงพอ เพื่อให้ร่างกายได้ปรับสมดุล และฟื้นฟูสุขภาพทั้งภายใน และภายนอกอย่างมีประสิทธิภาพ สิ่งที่ควรให้ความสำคัญอีกอย่างหนึ่ง คือ อาหารเสริม  อาหารเสริม คือ อาหารที่ให้รับประทานเพิ่มเติมนอกเหนือจากอาหารหลัก เป็นสิ่งที่มาช่วยเติมเต็มสารอาหารต่าง ๆ ให้แก่ร่างกายเท่านั้น ไม่ใช่อาหารที่กินแทนมื้อหลักได้ ซึ่งในปัจจุบันมีการผลิตอาหารเสริมมากมายหลายรูปแบบ ที่จะมาช่วยเติมเต็มสารอาหารที่ขาดไปในแต่ละมื้อ ทดแทนสารอาหารบางอย่างที่เราไม่ได้บริโภคในมือนั้น ๆ  เพื่อให้ร่างกายแข็งแรง ได้รับสารอาหารที่ครบถ้วน วันนี้เราจะมาแนะนำอาหารเสริม คือ น้ำมันปลา กันก่อนค่ะ

น้ำมันปลา (Fish Oil) ยี่ห้อไหนดี 2018

น้ำมันปลา เป็นน้ำมันที่สกัดมาจาก เนื้อ หนัง พุง หัว และหาง ของปลา โดยเฉพาะ ปลาที่อาศัยในแถบทะเลน้ำลึกที่เป็นน้ำเย็น เช่น ปลาทูน่า ปลาซาร์ดีน ปลาแซลม่อน ปลาแมคเคอเรล ปลาเฮอร์ริ่ง ปลาแอนโชวี่ เป็นต้น น้ำมันปลาไม่ได้จัดอยู่ในกลุ่มอาหารประเภท วิตามิน หรือเกลือแร่ แต่จัดเป็นประเภทอาหารเสริม น้ำมันปลามีรูปแบบจำหน่าย เป็นอาหารเสริมชนิดรับประทาน ได้แก่ แคปซูลนิ่ม (Soft Gelatin Capsule) และเยลลี่เคี้ยว (Gummy) เรามาดูน้ำมันปลา ประกอบด้วยสารชนิดใดบ้าง น้ำมันปลา ประกอบด้วยสารสำคัญคือ เป็นกรดไขมันชนิดไม่อิ่มตัว (Polyunsaturated Fatty Acid ย่อว่า PUFA) ในกลุ่มของโอเมก้า -3 (Omega -3) เด่น ๆ 2 ชนิดได้แก่

1. กรดไขมัน ไอโคซาเพนตะอีโนอิก แอซิด หรือย่อว่า อีพีเอ (Eicosapentaenoic acid ย่อว่า EPA)

2. กรดไขมัน โดโคซาเฮกซะอีโนอิก แอซิด หรือย่อว่า ดีเอชเอ (Docosahexaenoic acid ย่อว่า DHA

มีข้อบ่งใช้น้ำมันปลา เช่น ใช้ควบคุมระดับไขมันในเลือด ในภาวะที่มีระดับไขมันไตรกลีเซอไรด์ในเลือดสูง (Hypertriglyceridemia) โดยต้องรับประทานวันละ 2–4 กรัม ลดอัตราการเสียชีวิต จากโรคหัวใจและหลอดเลือด โดยสมาคมแพทย์โรคหัวใจอเมริกัน (American Heart Association ย่อว่า AHA) แนะนำให้ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดหัวใจ (Coronary Heart Disease ย่อว่า CHD) รับประทานน้ำมันปลาวันละ 1 กรัม และแนะนำให้บุคคลทั่วไป รับประทานปลาเป็นอาหารอย่างน้อย 2 มื้อต่อสัปดาห์บรรเทาอาการปวด และอาการอักเสบในผู้ป่วยโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์/โรคข้อรูมาตอยด์

โดยจากการศึกษาผลวิจัยทางการแพทย์พบว่า น้ำมันปลามีประโยชน์อย่างต่อร่างกายหลากหลาย เช่น

สารบัญ

  1. ประโยชน์ต่อระบบหัวใจและสมอง โดยมีส่วนช่วยยับยั้งการเกาะตัวของเกล็ดเลือดและลดไขมันในเลือด จึงช่วยป้องกันการอุดตันของหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงส่วนต่างๆ โดยเฉพาะหัวใจและสมอง
  2. ประโยชน์ต่อระบบหลอดเลือด โดยมีส่วนช่วยให้หลอดเลือดขยายตัว ทำให้ระบบการไหลเวียนของเลือดในร่างกายดีขึ้น ลดการเต้นของหัวใจที่ผิดปกติ
  3. ประโยชน์เกี่ยวกับความดันโลหิตของร่างกาย เนื่องจากโอเมก้า 3 จะมีส่วนช่วยให้หลอดเลือดขยายตัว ทำให้ระบบการไหลเวียนของเลือดในร่างกายดีขึ้น จึงมีผลให้ความดันลดลง โดยที่น้ำมันปลาจะไม่มีผลต่อความดันในผู้ที่มีความดันโลหิตปกติแต่อย่างใด
  4. มีส่วนช่วยลดระดับไขมันไตรกลีเซอร์ไรด์ในเลือดได้ 20% – 50% ที่สำคัญ คือ ปลอดภัย ไม่มีผลข้างเคียงต่อร่างกาย สามารถใช้ร่วมกับยาในการลดระดับไขมันในผู้ที่มีไขมันในเลือดสูงได้
  5. อาการข้อเสื่อม ข้อรูมาตอยด์ กรดไขมันโอเมก้า 3 มีคุณสมบัติในการช่วยลดอาการอักเสบ อาการตึงแน่น และอาการข้อยึดตอนเช้า ในผู้ที่มีภาวะข้อเสื่อมและข้ออักเสบรูมาตอยด์ เนื่องจาก EPA สามารถลดสารที่ก่อให้เกิดอาการอักเสบ ปวด บวมข้อ นอกจากนั้นยังช่วยเพิ่มการสร้างสารที่มีคุณสมบัติทำให้อาการอักเสบต่างๆ ของข้อลดลงได้
  6. เสริมการทำงานของเซลล์สมอง ป้องกันสมองเสื่อม การรับประทานน้ำมันปลาจะมีส่วนป้องกันสมองเสื่อมหรือโรคอัลไซเมอร์ได้ เพราะ  DHA ช่วยเพิ่มสารที่ช่วยลดการสร้างเส้นใยในสมองอันเป็นตัวการทำลายใยประสาทส่วนความจำ
  7. ภาวะซึมเศร้า พบว่าผู้ที่บริโภคปลาเป็นประจำอย่างต่อเนื่อง มีอัตราการเป็นโรคซึมเศร้าต่ำ เพราะสมดุลของกรดไขมันในร่างกายมีผลต่อความรุนแรงของการเกิดโรคซึมเศร้า จากการวิจัยพบว่าคนที่มีระดับกรดไขมันโอเมก้า 3 ต่ำ แต่โอเมก้า 6 สูง มีโอกาสเกิดภาวะซึมเศร้ามากกว่าปกติ
  8. มีส่วนช่วยลดความเสี่ยงโรคเบาหวาน โดยนักวิจัยพบว่ากรดไขมัน EPA ในน้ำมันปลา จะช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้ดีขึ้นได้
  9. อาการปวดไมเกรน กรดไขมันในน้ำมันปลาจะมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงของพรอสตาแกลนดิน และลดการหลั่งสารซีโลโทนิน ทำให้การเกาะตัวของหลอดเลือดลดลงในระยะที่มีการบีบตัวของหลอดเลือดในสมอง จึงอาจช่วยลดอาการปวดไมเกรนได้
  10. อาการหอบหืด การรับประทานน้ำมันปลาจะช่วยลดสารที่ก่อให้เกิดการอักเสบ และสาร สำคัญที่ทำให้เกิดอาการหอบหืด ดังนั้น การรับประทานน้ำมันปลาอย่างต่อเนื่องจะมีส่วนช่วยบรรเทาอาการหอบหืดได้
  11. โรคผิวหนังบางชนิด การรับประทานปลาที่มีไขมันมากอาจจะช่วยบรรเทาอาการของโรคผิวหนังได้ เช่น โรคสะเก็ดเงิน โรคเรื้อนกวาง โดยลดอาการคัน ทำให้ผื่นแดงน้อยลง
อ่านบทความเกี่ยวข้อง  น้ำมันปลา มีประโยชน์อะไรบ้าง พร้อมแนะนำวิธีเลือกซื้อ

จากการศึกษาผลวิจัยทางการแพทย์พบว่า น้ำมันปลามีประโยชน์อย่างต่อร่างกายหลากหลาย

ข้อควรระวังในการบริโภคน้ำมันปลา

  1. เลือดออกง่าย(Excess Bleeding) เนื่องจากการลดการจับตัวของเกร็ดเลือด ดังนั้นจึงควรระมัดระวังเป็นพิเศษในผู้ที่รับประทาน Baby Aspirin เป็นประจำ
  2. เพิ่มความต้องการวิตามินอี เนื่องจากร่างกายต้องนำวิตามินอีไปต้านอนุมูลอิสระที่เกิดจากปฏิกิริยาออกซิเดชันของกรดไขมันไม่อิ่มตัว (PUFA) ดังนั้นถ้าร่างกายได้รับ Antioxidant ไม่เพียงพอในระยะยาวอาจส่งเสริมการเกิดโรคหัวใจขาดเลือด เนื่องจากการเพิ่ม oxidize LDL
  3. อาจเกิดโรคติดเชื้อได้ง่ายเนื่องจาก EPA กดระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย น้ำมันปลาแม้จะมีประโยชน์ในการรักษาดังที่กล่าวมาแล้ว แต่ในทางปฏิบัติอาจเป็นไปได้ยาก เนื่องจากน้ำมันปลาทะเลมีกลิ่นแรงและต้องใช้ขนาดสูง ผู้ป่วยมักรู้สึกผะอืดผะอมและปั่นป่วนในท้องมากจนต้องหยุดรับประทานไปในที่สุด นอกจากนั้นยังอาจเกิดผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ ดังนั้น เพื่อความปลอดภัยจึงควรบริโภคปลาทะเลแทนน้ำมันปลาทะเลในปริมาณสัปดาห์ละ 3 มื้อ มื้อละ100 กรัม

 

วิธีเลือกซื้อ น้ำมันปลา ควรเลือกอย่างไร ให้มีความปลอดภัยต่อผู้บริโภค มาดูกันเลยค่ะ

  1. เลือกปลาตัวเล็ก จากแหล่งธรรมชาติที่ดีควรมาจากปลาทะเล ปลาที่อาศัยในแถบทะเลน้ำลึกที่เป็นน้ำเย็น อย่างเช่น ปลาซาร์ดีน ปลาแซลมอน ปลาทูน่า ปลาซาบะ ปลาเฮอร์ริ่ง ปลาแมคเคอเรล ปลาแอนโชวี่ ปลาไวท์ฟิช ปลาบลูฟิช ปลาชอคฟิช ปลานิลทะเล ปลาดุกทะเล จะได้น้ำมันปลาคุณภาพสูงกว่า ปราศจากสารปนเปื้อนที่อาจจะติดมาด้วย
  2. การเลือกซื้ออาหารเสริมน้ำมันปลานั้น ควรจะดูที่ปริมาณ DHA และ EPA เป็นหลัก โดยควรมีมากกว่า 20% ของปริมาณทั้งหมด อัตราส่วนของ DHA : EPA นั้นควรจะเป็น 1:2 หรือ 2:3 เพื่อการออกฤทธิ์อย่างมีประสิทธิภาพ
  3. ตรวจสอบมาตรฐานการผลิตและการรับรอง เป็นหน่วยงานที่ทั่วโลกไว้วางใจในมาตรฐานการตรวจสอบ เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัย ไม่เป็นอันตรายต่อผู้บริโภค

เรามาดู 10 น้ำมันปลายี่ห้อไหนดี ที่ควรมีไว้ติดบ้าน

1. Vistra Salmon Fish Oil 1000MG วิสทร้า น้ำมันปลาแซลมอน 1000 มก.

Vistra Salmon Fish Oil 1000MG วิสทร้า น้ำมันปลาแซลมอน 1000 มก. ผลิตภัณฑ์นี้ให้กรดไขมันจำเป็นกลุ่มโอเมก้า 3 ได้แก่ อีพีเอ และ ดีเอชเอ ใน 1 แคปซูลมีน้ำมันปลา 1000 มิลลิกรัม ประกอบด้วยกรดไขมันไม่อิ่มตัวหลายตำแหน่ง กรดไอโคชาเพนตาอิโนอิก(อีพีเอ) 180 มก. กรดไดซาอีโนอิก(ดีเอชเอ) 120 มก. วิตามิน อี 2.5 มก. อย. เลขที่ 10-1-00449-1-0121 มีส่วนช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือด ช่วยส่งเสริมการทำงานของสมอง บรรเทาอาการปวดบวมอักเสบของข้อ ควบคุมไตรกลีเซอไรด์และคอเลสเตอรอลให้อยู่ในระดับมาตรฐาน เหมาะสำหรับผู้ที่รักสุขภาพ ที่ต้องการดูแลสุขภาพให้แข็งแรง ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ หรืออาจเป็นตัวช่วยในการรักษาสุขภาพเบื้องต้นได้เป็นอย่างดี

ข้อดี
ข้อด้อย

2. Bewel Salmon Fish Oil 1000mg น้ำมันปลาแซลมอน โอเมก้า 3 สูง

Bewel Salmon Fish Oil 1000mg น้ำมันปลาแซลมอน โอเมก้า 3 สูง น้ำมันปลาคุณภาพดีนำเข้าจากประเทศออสเตรเลีย ผ่านขั้นตอนการตรวจสอบคุณภาพอย่าง เคร่งครัดจากหน่วยงานของรัฐบาลออสเตรเลียรับรองความปลอดภัยของ Bewel Salmon Fish Oil เลขที่ อย. 10-1-00449-1-0213 เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ค่อยได้ทานปลาเป็นประจำ ผู้ที่ทำงานหนักหักโหมและขาดการออกกำลังกาย ช่วยให้บำรุงผิวพรรณให้เต่งตึง เนียนนุ่ม บำรุงสมอง ในเรื่องการจดจำ บรรเทาอาการปวดบวมอักเสบของข้อ

ข้อดี
ข้อด้อย

3. Mega We Care Fish Oil 1000 mg

Mega We Care Fish Oil 1000 mg น้ำมันปลา 1000 มก.ใน 1 แคปซูล Mega Fish Oil 1000 mg. ประกอบด้วยน้ำมันปลา1,000 มก. ให้สารสำคัญดังนี้ อีพีเอ (EPA)180 มก.ดีเอชเอDHA)120 มก .ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารน้ำมันปลา 1000 มก. นํ้ามันปลาเป็นแหล่งที่ดีของกรดไขมันชนิดดี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง โอเมก้า 3 (Omega-3) ซึ่งโอเมก้า-3 มีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับร่างกาย โดยมีส่วนช่วยบำรุงหัวใจ ป้องกันโรคหัวใจและสมองขาดเลือดชั่วคราว ลดความดันโลหิตสูง บรรเทาอาการปวดข้อรูมาตอยด์ และอาการข้อเสื่อม ต่อต้านภาวะสมองเสื่อมก่อน ลดคอเลสเตอรอล ช่วยลดไขมันในเลือด ผ่านการตรวจสอบสารปนเปื้อนและโลหะหนัก อย. : 11-1-32732-1-0130

ข้อดี
ข้อด้อย

4. Fish Oil 500 Alertide for Kids

Fish Oil 500 Alertide for Kids อาหารเสริม น้ำมันปลา อเลอไทด์   ช่วยฟื้นฟูความจำ บำรุงสมอง แก้ปัญหาสมาธิสั้น จำยาก ลืมง่าย ช่วยให้สมอง ทำงานดีขึ้น และเสริมสร้างการเจริญเติบโตของปลายประสาท เหมาะสำหรับเด็กที่มีสมาธิสั้น จำยาก ลืมง่าย เป็นอาหารเสริมที่บำรุงสมอง บำรุงข้อ และยังป้องกันโรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง และโรคเบาหวานอีกด้วย

ข้อดี
ข้อด้อย

5. Blackmores Omega Daily น้ำมันปลาเข้มข้น สูตรไร้กลิ่นคาว

Blackmores Omega Daily น้ำมันปลาเข้มข้น สูตรไร้กลิ่นคาว 60 แคปซูล ส่วนประกอบสำคัญ Blackmores Omega Daily ใน 1 แคปซูล – โอเมก้า 3 เข้มข้น จากน้ำมันปลาทะเล 1111 มิลลิกรัมประกอบด้วยกรดไขมันไม่อิ่มตัวหลายตำแหน่ง (โอเมก้า-3) 644.3 มิลลิกรัม ได้แก่ – กรดไอโคซาเพนทาอิโนอิก (อีพีเอ) 377.7 มิลลิกรัม – กรดโดโคซาเฮกซาอิโนอิก (ดีเอชเอ) 266.6 มิลลิกรัม – วิตามิน อี ธรรมชาติ 2.4 ไอ.ยู เลขที่ อย. 10-3-08338-1-0030 เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการดูแลสุขภาพหัวใจ ผู้สูงอายุ และวัยทำงาน ที่ไม่มีเวลาออกกำลังกาย ช่วยลดระดับไขมันในเส้นเลือด ลดอาการปวดรูมาตอยด์ บำรุงสมอง และเสริมความจำ

ข้อดี
ข้อด้อย

6. Centuria FishOil Juno น้ำมันปลาสำหรับเด็ก บำรุงสมอง เพิ่มความจำ

Centuria Fish Oil Juno น้ำมันปลาสำหรับเด็ก บำรุงสมอง เพิ่มความจำ ผลิตภัณฑ์นำเข้าจากประเทศนิวซีแลนด์ ช่วยเสริมสร้างเซลล์ประสาทประกอบด้วยสาร DHA กว่า 30- 50 % โดยพบว่ายิ่งมีโอเมก้า 3 อยู่มากเท่าใด ความสามารถของการส่งสัญญาณประสาทก็จะยิ่งมากขึ้นเท่านั้น ซึ่งทำให้ระบบประสาทแต่ละส่วนทำงานสื่อสารกันอย่างมีประสิทธิภาพ เหมาะสำหรับเด็กที่มีอายุตั้งแต่ 1 ปี ช่วยให้เด็กสามารถเรียนรู้และเข้าใจสิ่งต่างๆได้ง่าย  ช่วยเพิ่มความจำและความสามารถในการเรียนรู้ได้เป็นอย่างดี ใช้ Xylitol เป็นสารให้ความหวานแทนน้ำตาล เหมาะสำหรับเด็กเลขที่ อย. 73- 1- 32023- 1- 004

ข้อดี
ข้อด้อย

7. NUTRAKAL Fish Oil Omega 3 น้ำมันปลา โอเมก้า 3

NUTRAKAL Fish Oil Omega 3 น้ำมันปลา โอเมก้า ประกอบด้วยกรดไขมันไม่อิ่มตัวหลายตำแหน่ง กรดไอโคซาแพนทาอีโนอิก (EPA) 180 มิลลิกรัม  กรดโดไคซาแฮกซาอีโนอิก (DHA) 120 มิลลิกรัม เลขที่ใบรัลแจ้ง อย 10-1-11457-1-0032 เหมาะสำหรับผู้ที่รักสุขภาพ ผู้สูงอายุ หรือวัยทำงาน มีประโยชน์มากมาย ที่จะช่วยให้คุณได้มีสุขภาพที่ดีได้

ข้อดี
ข้อด้อย

8. Powerhealth Omega3 Fish Oil น้ำมันปลา

Powerhealth Omega3 Fish Oil น้ำมันปลา จากอังกฤษ ส่วนประกอบสำคัญน้ำมันปลา (Omega 3 Fish Oil) 1001 mg/cab (EPA 180mg, DHA 120mg) Vitamin E 10 mg/cap (Natural from Soya Bean Oil)ส่วนประกอบของ โอเมก้า 3  1.  ดีเอชเอ / DHA หรือ Docosahexacnoic Acid เป็นกรดไขมันที่เป็นส่วนประกอบสำคัญของสมองและดวงตา ช่วยเสริมสร้างพัฒนาการทางสมอง, การเรียนรู้ และความจำ       2.  อีพีเอ / EPA (Ei cosapentaenoic Acid) มีคุณสมบัติในการลดไขมันไตรกลีเซอไรด์ในเลือด, ลดคอเลสเตอรอลชนิดเหลว (LDL Cholesterol) ในเลือด, ป้องกันการอุดตันของหลอดเลือด, ป้องกันการเกาะตัวของเกล็ดเลือด ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของโรคหลอดเลือดสมองตีบตันและหัวใจขาดเลือด จึงลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ เลขที่ อย : 1030195510004

อ่านบทความเกี่ยวข้อง  น้ำตาเทียม ยี่ห้อไหนดี
ข้อดี
ข้อด้อย

9. Natrol, Omega-3 Fish Oil

Natrol, Omega-3 Fish Oil (น้ำมันปลา กลิ่น Lemon), 1,000  เป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการรับรองด้วยมาตรฐานการผลิตจากสถาบัน NPA GMP (Natural Product Assocation) ของอเมริกาเรียบร้อยและที่สำคัญผ่านการตรวจสอบสารปนเปื้อนและโลหะหนัก น้ำมันปลาจะมีกรดไขมันอยู่หลายชนิด น้ำมันปลา ประกอบด้วยกรดไขมันโอเมก้า-3 และกรดไขมันโอเมก้า-6 มีประโยชน์มากสำหรับบำรุงร่างกาย ช่วยบำรุงสมองหัวใจ สายตา และกระดูก  เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการดูแลสุขภาพ ผู้สูงอายุ วัยทำงาน

ข้อดี
ข้อด้อย

10. Fish oil 500 น้ำมันปลา

Fish oil 500 น้ำมันปลา มีสารประกอบของกรดไขมันที่ร่างกายไม่สามารถสร้างเองได้ซึ่งอยู่ในกลุ่มของโอเมก้า-3 มี 2 ชนิดได้แก่ EPA (Eicosapentaenoic Acid) และ DHA (Docosahexaenoic Acid) ส่วนประกอบที่สำคัญโดยประมาณใน 1 แคปซูล : น้ำมันปลา 500/1000 มก. วิตามินอี(1200หน่วยสากล/กรัม) 4160 มก. ประกอบไปด้วยกรดไอโคซาเพนทาอีโนอิก (อีพีเอ) 180 มก. กรดโดโอซาเฮกซาอีโนอิก (ดีเอชเอ) 120 มก. เหมาะสำหรับผู้สูงอายุเพื่อป้องกันโรคหัวใจและโรคความจำเสื่อม วัยทำงานที่ต้องทำงานใช้ความคิด วิเคราะห์อยู่ตลอด หรือผู้ที่มีปริมาณคอเลสเตอรอลสูง ช่วยให้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง

ข้อดี
ข้อด้อย

บทสรุป

เป็นอย่างไรกันบ้างค่ะ สำหรับ 10 น้ำมันปลา ยี่ห้อไหนดี  มีให้เลือกมากมายหลายยี่ห้อ เพื่อสุขภาพที่ดีแล้วหวังว่า 10 น้ำมันปลายี่ห้อไหนดี คงจะเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่รักสุขภาพ ผู้ที่อยู่ในวัยทำงาน หรือผู้สูงอายุ ได้เป็นอย่างดี แต่สิ่งที่สำคัญและควรทำควบคู่ไปพร้อมกันกับการกินอาหารเสริม คือ การดูแลสุขภาพทั้งในเรื่องอาหารการกิน การผักผ่อน และการออกกำลังกาย จึงจะถือว่าเป็นผู้ที่รักษาสุขภาพได้เป็นอย่างดี เพื่อหลีกเลี่ยงจากการเกิดโรคต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ พบกันใหม่ในบทความหน้า สวัสดีค่ะ