KJDOO.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาการใช้งานของคุณ อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่

ยาสีฟันฟันขาว ยี่ห้อไหนดี

ยาสีฟันฟันขาว เป็นสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้ในการทำความสะอาดฟันและช่องปาก ปัจจุบันมีวางขายในท้องตลาดอยู่หลายยี่ห้อ เช่น คอลเกต, ดอกบัวคู่, ดาร์ลี่ เป็นต้น ซึ่งแต่ละยี่ห้อ แต่ละสูตรมีคุณสมบัติแตกต่างกันไป

บางรุ่นช่วยกำจัดแบคทีเรีย, ลดกลิ่นปาก, ลดการเสียวฟัน ในขณะที่บางรุ่นก็ถูกออกแบบมาเพื่อเพิ่มความขาวใสให้กับฟัน และยาสีฟันก็มีหลายประเภทเราไปดูประเภทของยาสีฟันว่ามีประเภทไหนบ้างพร้อมแล้วไปดูกันเลยค่ะ

ฟันขาว

ประเภทของยาสีฟัน มีดังนี้

สารบัญ

1.ยาสีฟันฟลูออไรด์

เป็นแร่ธาตุที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติชนิดนี้เป็นส่วนผสมสำคัญอันดับแรกที่ควรมองหาเมื่อเลือกซื้อยาสีฟัน เนื่องจากยาสีฟันที่มีฟลูออไรด์มีคุณสมบัติในการปกป้องฟันจากกรดที่แบคทีเรียภายในปากปล่อยออกมา

ขณะจับตัวกับน้ำตาลซึ่งตกค้างจากการรับประทานอาหาร โดยสารฟลูออไรด์จะส่งผลให้เคลือบฟันแข็งแรงขึ้น ทำให้ฟันมีความเสี่ยงที่จะได้รับความเสียหายจากกรดดังกล่าวลดน้อยลง นอกจากนี้ยังช่วยให้ฟันบริเวณที่เพิ่งเริ่มเกิดการผุกร่อนกลับมามีสุขภาพดีดังเดิมได้

อย่างไรก็ตาม การได้รับฟลูออไรด์ในปริมาณมากเกินไปก็อาจส่งผลเสียทำให้เกิดการตกกระที่ฟันได้ โดยเฉพาะในเด็กอายุต่ำกว่า 7 ปี ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้กำหนดให้มีส่วนผสมของฟลูออไรด์ในยาสีฟันไม่เกิน 0.11 เปอร์เซ็นต์ 

และไม่จำเป็นต้องใช้ยาสีฟันมาก ๆ ในการแปรงฟันแต่ละครั้ง ควรบีบขนาดเท่าเม็ดถั่วเขียวก็เพียงพอ นอกจากนี้ ผู้ปกครองยังควรคอยดูแลไม่ให้บุตรหลานกลืนหรือรับประทานยาสีฟันเข้าไปด้วย

2.ยาสีฟันลดการเสียวฟัน

เป็นยาสีฟันสำหรับผู้ที่ฟันไวต่อความรู้สึกหรือเกิดอาการเสียวฟันได้ง่าย เช่น เมื่อเผชิญกับอุณหภูมิที่ร้อนหรือเย็นเกินไปจากการรับประทานอาหารหรือดื่มเครื่องดื่มที่เย็นจัด ร้อนจัด

ซึ่งยาสีฟันประเภทนี้มักมีส่วนผสมของโพแทสเซียมไนเตรต (Potassium Nitrate) หรือสตรอนเทียมคลอไรด์ (Strontium Chloride) สารที่ช่วยบรรเทาอาการเสียวหรือระคายเคืองของฟันด้วยการไปอุดช่องทางของฟันที่เชื่อมต่อไปยังเส้นประสาทรับความรู้สึกภายในฟัน โดยจะเห็นผลลัพธ์จากการใช้ภายใน 4 สัปดาห์

3.ยาสีฟันช่วยให้ฟันขาว

ยาสีฟันประเภทนี้ส่วนใหญ่ไม่มีสารฟอกขาวเป็นส่วนผสม หรือหากมีก็มีปริมาณเพียงเล็กน้อย จึงไม่ควรคาดหวังถึงผลลัพธ์ฟันที่ขาวขึ้นอย่างชัดเจนเหมือนการฟอกสีฟัน และไม่ทำให้สีโดยธรรมชาติของเนื้อฟันขาวขึ้นแต่ประการใด

ยาสีฟันเพื่อฟันขาวประกอบด้วยวัสดุขัดถูหรือสารที่มีคุณสมบัติในการขัดถู รวมทั้งสารที่ช่วยสลายหรือละลายคราบ จึงช่วยขจัดคราบบนฟันที่อาจเกิดจากการรับประทานอาหาร เช่น ชา กาแฟ หรือการสูบบุหรี่ และมักไม่กรัดกร่อนหรือก่อความเสียหายให้ฟัน

เนื่องจากไม่ได้มีความรุนแรงต่อเคลือบฟันมากไปกว่ายาสีฟันชนิดอื่น ๆ โดยการใช้ยาสีฟันชนิดนี้วันละ 2 ครั้ง อาจใช้ระยะเวลาประมาณ 2-6 สัปดาห์จึงจะเห็นผล

ทั้งนี้ การเลือกใช้ยาสีฟันที่ช่วยทำให้ฟันขาวควรมองหาผลิตภัณฑ์ที่มีสัญลักษณ์แสดงการรับรองจากองค์กรทันตกรรมที่น่าเชื่อถือ เช่น สมาคมทันตแพทย์อเมริกัน (ADA) ซึ่งจะยืนยันได้ว่ายาสีฟันดังกล่าวมีประสิทธิภาพและมีความปลอดภัยในการใช้

4.ยาสีฟันควบคุมคราบหินปูนและลดโรคเหงือก

คราบชั้นการสะสมของแบคทีเรียบนฟันที่ล้วนมีกันทุกคนนั้นหากไม่ได้รับการแปรงทำความสะอาดอย่างเหมาะสม นานไปจะก่อตัวแข็งขึ้นกลายเป็นคราบหินปูนบนฟันและบริเวณใต้เหงือกซึ่งยากต่อการขจัด นำไปสู่การเกิดโรคเหงือกได้ในที่สุด

ยาสีฟันที่มีคุณสมบัติในการควบคุมคราบหินปูนโดยมากมีสารฟลูออไรด์เป็นส่วนประกอบ รวมถึงไพโรฟอสเฟต (Pyrophosphate) ซิงค์ซิเตรท (Zinc Citrate) สารเหล่านี้ต่างได้รับการทดสอบแล้วว่ามีประสิทธิภาพ

และยิ่งมีสารต้านการสะสมคราบแบคทีเรียมากชนิด ก็ยิ่งให้ผลดีในการควบคุมคราบหินปูน นอกจากนี้ บางยี่ห้อยังอาจมียาปฏิชีวนะอย่างไตรโคลซาน (Triclosan) ที่จะช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียในช่องปากร่วมด้วย

5.ยาสีฟันชาร์โคล

เริ่มได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในระยะหลัง เนื่องจากมีการกล่าวอ้างว่าชาร์โคลหรือถ่านกัมมันต์ซึ่งสามารถช่วยดูดซับสารพิษจะมีประสิทธิภาพในการขจัดคราบบนฟันออกไป ทำให้ฟันขาว และกำจัดกลิ่นปาก

ทว่ายังไม่มีการศึกษาที่ยืนยันอย่างแน่ชัดถึงความปลอดภัยหากใช้ชาร์โคลภายในปาก เช่นในกรณีที่เผลอกลืนเข้าไป ชาร์โคลจะไปทำปฏิกิริยากับยารักษาโรคที่รับประทานหรือไม่ และจะส่งผลในการกำจัดแบคทีเรียได้อย่างไร

ด้วยข้อสงสัยเกี่ยวกับความปลอดภัยของชาร์โคลที่ยังตอบไม่ได้ ทันตแพทย์ทั้งหลายเห็นพ้องกันว่าควรเลือกใช้ยาสีฟันชนิดนี้อย่างระมัดระวังและไม่บ่อยครั้งเกินไป หรือสัปดาห์เว้นสัปดาห์ ไม่ใช้ติดต่อเป็นเวลานานแม้จะรู้สึกว่าสุขภาพฟันยังเป็นปกติดีก็ตาม

เนื่องจากชาร์โคลนั้นเป็นสารขัดถูอยู่แล้ว เมื่อรวมตัวกับสารขัดถูในยาสีฟันอีกจึงอาจมีฤทธิ์กัดกร่อนเคลือบฟันหากใช้เป็นประจำ และสำหรับผู้ที่มีปัญหาเหงือกร่น ก็อาจส่งผลให้รากฟันอ่อนแอจากการใช้ได้

วิธีการเลือกซื้อยาสีฟัน มีดังนี้

1.เลือกชนิดยาสีฟันให้ตรงกับความต้องการ

ลักษณะผลิตภัณฑ์ของยาสีฟันสามารถแบ่งได้อย่างกว้าง ๆ เป็น 3 ชนิด ได้แก่

  • ยาสีฟันชนิดเนื้อครีม (Paste) มีสารขัดฟัน (Abrasive) ที่ช่วยให้ฟันขาว

ยาสีฟันชนิดนี้เป็นแบบที่พบเห็นกันได้มากที่สุดในบรรดายาสีฟันทั้งหมด เป็นเนื้อครีมข้นบรรจุอยู่ในหลอดบีบ มักมีส่วนประกอบเป็นสารขัดทำความสะอาด

และตัวทำปฏิกิริยาให้เกิดฟองซึ่งมีคุณสมบัติช่วยขจัดคราบสกปรกและให้คุณแปรงฟันได้อย่างลื่นไหลไม่สะดุด อีกทั้งมีราคาถูกและหาซื้อได้ง่ายจึงมีผู้คนมากมายเลือกใช้ค่ะ

อย่างไรก็ตาม ด้วยความที่มีสารที่ช่วยขัดให้ฟันขาวใสและขจัดคราบสกปรกต่าง ๆ ในปริมาณมากอยู่แล้วบวกกับการที่ใช้งานได้ง่ายไม่ต้องออกแรงแปรงมาก 

จึงไม่เหมาะหากจะใช้งานร่วมกับแปรงสีฟันไฟฟ้าเพราะมีพลังการขัดทำความสะอาดสูงกว่าการใช้แรงมือของคนเรา อาจส่งผลให้ผิวฟันสึกกร่อนง่ายได้ค่ะ

  • ยาสีฟันชนิดเจล (Gel) เหมาะแก่การใช้ร่วมกับแปรงไฟฟ้า-แปรงซอกฟันเป็นอย่างยิ่ง

จุดเด่นของยาสีฟันชนิดเจลคือมีเนื้อสัมผัสที่ค่อนข้างข้นเหนียว มีสารขัดฟันประกอบอยู่เพียงเล็กน้อยหรือไม่มีเลย ทำให้เป็นผลดีแก่การใช้ทำความสะอาดฟันและช่องปากได้อย่างสบายใจ ไม่ต้องห่วงว่าผิวฟันจะสึกกร่อนได้ง่าย

เป็นยาสีฟันชนิดไม่มีฟอง ฟองน้อยจึงเหมาะกับการใช้ร่วมกับแปรงสีฟันไฟฟ้าและแปรงสำหรับซอกฟันในการขจัดเอาคราบสกปรกที่อาจติดตามร่องฟันออกได้อย่างหมดจด ไม่ทิ้งสารตกค้าง

แต่เนื่องจากมีสารขัดฟันน้อยทำให้อาจทำความสะอาดฟันได้ไม่ดีเท่าที่ควร โดยเฉพาะเรื่องการขจัดคราบเหลือง คราบสีต่าง ๆ บนผิวฟัน จึงแนะนำให้ใช้งานร่วมกับแปรงสีฟันไฟฟ้าที่มีพลังการขัดทำความสะอาดสูงหรืออาจใช้ร่วมกับยาสีฟันชนิดอื่นเพิ่มเติม เพื่อให้ได้ผลลัพธ์เป็นฟันสะอาดและขาวใสตามต้องการ

  • ยาสีฟันชนิดน้ำ ใช้งานสะดวก รวดเร็ว

ยาสีฟันชนิดน้ำต่างจากน้ำยาบ้วนปากเพราะยังคงต้องใช้แปรงสีฟันมาช่วยในการขัดทำความสะอาดฟันและบริเวณต่าง ๆ ในช่องปาก ตลอดจนซอกฟันที่อาจมีเศษอาหารติดค้างอยู่ด้วย

แต่การมียาสีฟันชนิดน้ำนั้นช่วยให้คุณประหยัดเวลาการแปรงฟันได้มากขึ้น ด้วยความที่เปิดใช้งานสะดวก ล้างออกก็ง่าย

อ่านบทความเกี่ยวข้อง  อายไลน์เนอร์ กันน้ำ ยี่ห้อไหนดี

ส่วนประสิทธิภาพนั้นมีความใกล้เคียงการยาสีฟันชนิดเจล ช่วยขจัดคราบสกปรกในช่องปากได้ในระดับหนึ่ง เหมาะกับการใช้งานหลังอาหารหรือก่อนเข้านอน

แต่อาจยังขาดคุณสมบัติบางประการจึงต้องใช้ยาสีฟันแบบเนื้อครีมมาช่วยเสริมการทำความสะอาดฟันและช่องปากด้านอื่น ๆ ด้วย ผู้อ่านควรตรึกตรองดูให้ดีว่าจะเลือกใช้ยาสีฟันชนิดไหนจึงจะตรงกับความจำเป็นที่สุดนะคะ

2.เลือกจากส่วนผสมที่จะช่วยจัดการกับปัญหา/ความกังวลใจของคุณ

ยาสีฟันที่วางขายในร้านค้าชั้นนำทั่วไปมีอยู่มากมายหลายสูตรให้เลือกสรร คุณควรตรวจสอบคุณสมบัติของส่วนผสมหลักของแต่ละสูตรอย่างละเอียดแล้วเลือกให้ตรงกับปัญหา/ความกังวลใจของคุณที่สุดค่ะ และวิธีเลือกมีดังนี้

  • เลือกที่มีฟลูออไรด์ผสมอยู่ตั้งแต่ 950 ppm ขึ้นไปเพื่อป้องกันฟันผุอย่างมีประสิทธิภาพ
ฟลูออไรด์เป็นสารสำคัญที่มีส่วนช่วยป้องกันฟันผุ ทำหน้าที่ช่วยลดการสะสมของแบคทีเรีย, เคลือบฟันจากการกัดกร่อนของกรดจากอาหาร/เชื้อแบคทีเรียจึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มีความกังวลในปัญหาดังกล่าวนี้

วิธีการเลือกก็สามารถดูได้จากฉลากข้างกล่องบรรจุภัณฑ์ ซึ่งฟลูออไรด์ที่ผสมในยาสีฟันนั้นมีหลากหลายชื่อ เป็นต้นว่า โซเดียม ฟลูออไรด์ (Sodium fluoride), โซเดียม ฟลูออโรฟอสเฟต (Sodium fluorophosphate), สแตนนัสฟลูออไรด์ (Stannous fluoride) ฯลฯ

และแนะนำว่าควรเลือกยาสีฟันสูตรที่ผสมฟลูออไรด์ตั้งแต่ 950 ppm ขึ้นไปจึงจะเห็นผลอย่างมีประสิทธิภาพค่ะ หากยาสีฟันที่ขายในห้างสรรพสินค้าทั่วไปมีค่าฟลูออไรด์น้อยกว่านี้ ก็อาจต้องลองสอบถามจากร้านค้า/คลินิกทำฟันโดยเฉพาะดูก็ได้ค่ะ

  • เลือกสูตรที่ผสมคลอร์เฮกซิดีน (Chlorhexidine) ช่วยป้องกันโรคปริทันต์อย่างเห็นผล

ก่อนอื่นขออธิบายก่อนว่า “โรคปริทันต์” คืออะไร? โรคปริทันต์ (Periodontal Disease) เป็นโรคที่เหงือกและเนื้อเยื่อรอบตัวฟันเกิดอาการอักเสบจนส่งผลร้ายแรงต่อสุขภาพฟันและช่องปาก เช่น มีเลือดออกขณะแปรงฟัน, เหงือกบวมแดง, มีกลิ่นปาก เป็นต้น

ซึ่งเจ้าสารคลอร์เฮกซิดีนนี้เองที่จะมาเป็นฮีโร่ช่วยบรรเทาและป้องกันการติดเชื้อในช่องปากและลำคอ เพราะมีส่วนผสมที่ช่วยฆ่าเชื้อโรคอยู่ ถือเป็นตัวยาที่จะช่วยลดการสะสมของแบคทีเรีย,

ลดอาการบวมแดงและป้องกันเลือดออกขณะแปรงฟันได้ด้วย แต่อาจมีผลข้างเคียงจากการใช้ยาจึงแนะนำว่าควรใช้ภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญค่ะ

สำหรับใครที่กำลังใช้ยาสีฟันผสมยาลดการอักเสบ (Anti-inflammatory) อยู่แนะนำว่าไม่ควรใช้ต่อเนื่องเป็นเวลานานเพราะตัวยาดังกล่าวไม่ได้เข้าแก้ไขที่ต้นตอของปัญหา แต่ช่วยลดอาการอักเสบได้เพียงชั่วคราวเท่านั้น

  • เลือกที่มีสารเคลือบฟันอย่างอลูมินัมแลคเตท/โปรแตสเซียมไนเตรทช่วยแก้อาการเสียวฟันได้!
อาการเสียวฟัน (Hyperesthesia) คือการที่มีความรู้สึกไวต่อสิ่งกระตุ้นมากกว่าปกติ เกิดจากการที่เสียผิวหน้าของฟันและเหงือกจากหลายสาเหตุ อาจเป็นเพราะการแปรงฟันผิดวิธี, การใช้ยาสีฟันที่มีสารขัดฟันมากเกินไป ทำให้ไม่ว่าจะกินอาหารเย็น หวาน หรือเปรี้ยว

ก็จะเกิดการเสียวฟันได้ง่ายกว่าปกติ กรณีนี้จึงควรเลือกใช้ยาสีฟันที่มีสารเคลือบฟันและเหงือก เช่น อลูมินัมแลคเตท (Aluminum lactate) หรือโปรแตสเซียมไนเตรท (Potassium nitrate) จะช่วยลดอาการดังกล่าวให้บรรเทาลงได้

ทั้งนี้ การใช้ยาสีฟันประเภทนี้อาจช่วยยับยั้งอาการได้เพียงชั่วคราวแต่ไม่ได้ทำให้หายสนิท หากมีอาการรุนแรงแก้ไม่หาย แนะนำให้ปรึกษาแพทย์เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดค่ะ

  • ยาสีฟันเพื่อฟันขาวก็ดี แต่ถ้าอยากฟอกฟันขาวอย่างปลอดภัย แนะนำปรึกษาคลินิกทำฟันเพื่อความชัวร์

ยาสีฟันที่มีคุณสมบัติช่วยให้ฟันขาวได้นั้นแบ่งอย่างคร่าว ๆ ได้เป็น 2 ประเภท คือยาสีฟันที่ผสมสารขัดฟัน เช่น กรดมาลิก (Malic acid) ซึ่งมีประสิทธิภาพการขจัดคราบเหลือง คราบสกปรกบนผิวฟันได้ดี

แต่อาจยังไม่ใช่ตัวช่วยให้ฟันขาวได้ดีที่สุด ส่วนอีกประเภทหนึ่งคือยาสีฟันที่ผสมสารฟอกสีฟันที่ช่วยให้ฟันขาวได้อย่างง่ายดาย แต่ไม่ได้มีฤทธิ์ช่วยขจัดแบคทีเรียหรือทำความสะอาดฟันและช่องปาก

จะเห็นว่า ยาสีฟันที่มีสารช่วยให้ฟันขาวนั้นก็มีข้อดี-ข้อเสียต่างกันอยู่และการใช้ยาสีฟันประเภทเหล่านี้เป็นเวลานานอาจส่งผลให้ผิวฟันสึกกร่อนได้ ดังนั้น หากจำเป็นต้องทำการฟอกสีฟันจริง ๆ แนะนำให้ปรึกษาคลินิกทำฟันที่วางใจได้เพื่อวิธีการที่ถูกต้องปลอดภัยและได้ผลตรงใจดีกว่านะคะ

3.ใช้ยาสีฟันที่ผสมสารขัดฟันมากเกินไปก็ไม่ดีนัก

อย่างที่กล่าวมาตั้งแต่ต้นว่า สารขัดฟันนั้นเป็นปัจจัยสำคัญที่มีส่วนทำลายเหงือกและสารเคลือบฟันที่มีตามธรรมชาติ ส่งผลให้ผิวฟันสึกกร่อน เกิดปัญหาโรคทางช่องปากต่าง ๆ ตามมาได้ คุณควรเลือกใช้ยาสีฟันที่มีสารขัดฟันเข้มข้นเพียงเพื่อลดคราบจุลินทรีย์ (Plaque)

ในบางครั้งบางคราวเท่านั้น แต่ในชีวิตประจำวันอาจต้องเลือกซื้อยาสีฟันอีกชนิด/สูตรที่มีสารขัดฟันในปริมาณน้อยลงเพื่อผลดีต่อผิวฟันและสารเคลือบฟันให้คงอยู่ปกป้องผิวฟันได้นานขึ้น

4.เลือกสูตรที่มีฟองน้อย ป้องกันสารเคมีตกค้าง

หลายคนอาจคุ้นชินกับการใช้ยาสีฟันที่มีฟองเยอะ ด้วยความเชื่อผิด ๆ ที่ว่ายิ่งมีฟองเยอะจะยิ่งทำให้สะอาดมากขึ้น ความจริงแล้วการใช้ยาสีฟันที่มีฟองเยอะมีความเสี่ยงต่อการเผชิญกับการมีสิ่งตกค้างตามซอกฟันและช่องปากของคุณได้

เพราะฟองเหล่านั้นอาจไปปิดกั้นการเข้าถึงของขนแปรงในบริเวณซอกฟันบางจุด ทำให้ทำความสะอาดได้ไม่ครบทุกส่วน เกิดเป็นปัญหาเศษอาหารตกค้างก่อเกิดแบคทีเรียสะสมตามมาได้

แม้ว่าในช่วงแรกที่เปลี่ยนมาใช้ยาสีฟันแบบฟองน้อย คุณอาจรู้สึกตะขิดตะขวงใจอยู่บ้าง แต่เชื่อเถอะว่าเลือกใช้ยาสีฟันแบบฟองน้อยนั้นดีกว่าจริง ๆ ค่ะเพื่อป้องกันเศษอาหาร/คราบสกปรก ตลอดจนสารเคมีที่อาจตกค้างได้

5.ยาสีฟันสำหรับเด็ก ควรเป็นสูตรปราศจากมิ้นท์/เมนทอลที่ให้ความเย็นจัด

ความจริงแล้ว เด็ก ๆ สามารถใช้ยาสีฟันร่วมกับผู้ใหญ่ได้แต่ผู้ปกครองต้องเลือกอย่างระมัดระวัง เนื่องจากยาสีฟันบางสูตรอาจไม่เหมาะกับวัยของพวกเขา เช่น สูตรที่เน้นความเย็นสดชื่นด้วยการเติมส่วนผสมของมิ้นท์หรือเมนทอล

เพราะอาจก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อช่องปากอันบอบบางของเด็กน้อยได้ ดังนั้น ทางที่ดีควรเลือกยาสีฟันสำหรับเด็กรสชาติที่พวกเขาคุ้นเคยอย่างรสผลไม้ เช่น รสสตอเบอร์รี่, รสส้ม, รสองุ่น เป็นต้น

นอกจากนี้ ควรเลือกยาสีฟันเด็กที่ผสมสารไซลิทอล (Xylitol) ซึ่งเป็นสารให้ความหวานแทนน้ำตาลโดยไม่ทำให้ฟันผุและให้พลังงานน้อยกว่าน้ำตาลเมื่อใช้ในปริมาณที่เท่ากัน เป็นการส่งเสริมให้เด็กรู้สึกสนุกสนานกับการแปรงฟันได้อีกทางค่ะ

หากใครที่กำลังมองหายาสีฟันอยู่วันนี้เรามี 10 อันดับยาสีฟันมาแนะนำอยากรู้ว่ามีแบบไหนบ้างเราไปดูกันเลยค่ะ

แนะนำ 10 อันดับยาสีฟันฟันขาว เลือกยี่ห้อไหนดี

1.ยาสีฟันฟันขาว by phoca รุ่น PHOCA ยาสีฟันสมุนไพร บาย โภคา ฟันสวย (สูตรใหม่เพิ่มฟลูออไรด์) 27g. (2 กล่อง)

ยาสีฟันฟันขาว by phoca

ยาสีฟันฟันขาว by phoca รุ่น PHOCA เป็นยาสีฟันสมุนไพรสูตรเข้มข้น สูตรใหม่ เพิ่มฟลูออไรค์ ปกป้องยาวนาน 12 ชั่วโมง ไม่มีส่วนผสมของแป้ง ซึ่งเป็นอาหารของเชื้อแบคทีเรีย และเป็นสาเหตุของการเกิดปัญหาฟันผุตามมา

ลดปัญหากลิ่นปาก ขจัดคราบหินปูน (ลดการขูดหินปูนต่อปี) ขจัดคราบฟันเหลืองจากบุหรี่ ชา กาแฟ ทำให้ฟันขาวขึ้น ช่วยลดการสะสมของเชื้อแบคทีเรียในช่องปากได้ตลอดวัน

ลดกลิ่นปากจากคราบน้ำลายบูดเมื่อตื่นนอน ลดอาการเหงือกอักเสบ ดูแลสุขภาพเหงือกให้แข็งแรง ลดอาการเลือดออกตามไรฟัน และอาการเสียวฟันได้อย่างเห็นผล

ข้อดี
ข้อด้อย

2.ยาสีฟันฟันขาว Sparkle รุ่น SK0044

ยาสีฟันฟันขาว Sparkle

ยาสีฟันฟันขาว Sparkle รุ่น SK0044 ตัวนี้มีส่วนผสมของผงขัดฟันอณุละเอียดยิบที่ช่วยขัดให้ฟันขาวและไม่ทำลายสารเคลือบฟันด้วยค่ะ นอกจากนี้ยังมี Vitamin C ต่อต้านอนุมูลอิสระ

ดูแลเหงือกและหันให้แข็งแรง ป้องกันเลือดออกตามไรฟันและยับยั้งแบคทีเรียได้ดีอีกด้วย ยาสีฟันตัวนี้เหมาะสำหรับคนที่ดื่มชา กาแฟ เป็นประจำทำให้ฟันมีคราบค่ะ

ข้อดี

3.ยาสีฟันฟันขาว Nuskin. รุ่น AP-24 Whitening Fluoride (ยาสีฟัน ฟันขาว)

ยาสีฟัน เอพี-24 ไวท์เทนนิ่ง เป็นยาสีฟันที่ผสานคุณค่าของสาร ซิลิกา อะลูมินา (Silica Alumina) ที่มีเนื้อละเอียดกว่ายาสีฟันทั่วไป จึงช่วยทำให้ฟันขาวโดยไม่กัดหรือทำลายเนื้อฟัน

ผนวกกับเทคโนโลยี AP-24 จึงมากด้วยประสิทธิภาพในการป้องกันและขจัดคราบหินปูนที่เกาะอยู่ตามซอกฟัน อันเป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดฟันผุ และโรคเหงือกอักเสบ

ข้อดี
ข้อด้อย

4.ยาสีฟันฟันขาว 5Star 4A รุ่น 5STAR 4A Toothpaste-7123292-2

ยาสีฟันสมุนไพร 5 Star ชนิดสูตรเข้มข้น และประหยัดคุ้มค่ากว่ายาสีฟันทั่วไป ใช้เพียงเล็กน้อยแค่หัวไม้ขีด ฟองนุ่มเยอะ มีกลิ่นหอม ทำให้ปากสะอาดได้อย่างยาวนานทั้งวัน

หยุดกลิ่นปาก ลดปวดฟัน ลดเสียวฟัน สมานแผลในช่องปาก ฟันขาวขึ้น รักษารากฟัน สุขภาพเหงือก ฟันจะดีขึ้นจนคุณรู้สึกได้ รับประกันความพึงพอใจ ใน 1 หลอดสามารถใช้ได้มากกว่า 200 ครั้งค่ะ

ข้อดี
ข้อด้อย

5.ยาสีฟันฟันขาว COLGATE รุ่น Total Professional Whitening

ยาสีฟันฟันขาว COLGATE รุ่นนี้เป็นยี่ห้อที่มีชื่อเสียงและได้รับการยอมรับจากผู้บริโภคหลายล้านคน รุ่นนี้เป็นยาสีฟันสูตร Professional Whitening คือช่วยให้ฟันของคุณขาวสะอาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ได้รับการคิดค้นพัฒนาสูตรอย่างพิถีพิถันเพื่อช่วยขจัดคราบพลัค คราบเหลือง คราบสกปรกต่าง ๆ ที่ติดบนผิวฟัน

นอกจากนี้ยังสามารถจัดการกับแบคทีเรียได้ยาวนานถึง 12 ชั่วโมง ทำให้ผู้ใช้มีสุขภาพช่องปากที่ดีขึ้นพร้อมกับลมหายใจสดชื่นยาวนาน จึงส่งผลให้ลดความเสี่ยงในการเกิดฟันผุและหินปูนได้ด้วย

ข้อดี
ข้อด้อย

6.ยาสีฟันฟันขาว DARLIE รุ่น EXPERT WHITE

ยาสีฟันฟันขาว DARLIE รุ่น EXPERT WHITE เป็นยาสีฟันที่ครองใจผู้บริโภคอีกรุ่นค่ะ จุดเด่นของผลิตภัณฑ์นี้เป็นไปตามชื่อคือ Export White ทำงานเสมือนผู้เชี่ยวชาญที่จะมาช่วยให้ฟันคุณขาวขึ้นถึง 3 เท่า

ด้วยส่วนผสมที่ทรงประสิทธิภาพ ช่วยแก้ไขปัญหาคราบสะสมต่าง ๆ ที่มากวนใจ พร้อมกับป้องกันการสะสมคราบสกปรกบนผิวฟันได้มากถึง 80%

ใครที่กำลังมองหายาสีฟันที่ช่วยขจัดคราบพลัคอันไม่พึงประสงค์บนผิวฟัน คราบเหลืองและปัญหากลิ่นปากที่กวนใจ ดาร์ลี่ เอ็กซ์เปิร์ต ไวท์จะเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่เหมาะกับคุณอย่างยิ่งค่ะ เพราะยาสีฟันรุ่นนี้จะทำให้คุณรู้สึกสะอาดและมีลมหายใจหอมสดชื่นยาวนานค่ะ

ข้อดี
ข้อด้อย

7.ยาสีฟันฟันขาว Oral Herb รุ่น ออรัลเฮิร์บ 50 กรัม

ยาสีฟันสมุนไพรออรัลเฮิร์บ เพื่อการดูแลสุขภาพส่งเสริมสุขอนามัยในช่องปากและฟันลดปัญหาในช่องปากให้ความรู้สึกถึงความสะอาดที่ แตกต่างจากคุณสมบัติของสมุนไพรเพียงในครั้งแรกที่ใช้ มีประสิทธิภาพในการทำความสะอาดรวมทั้งลดการ เสียวฟัน

การสะสมของแบคทีเรียขณะนอนหลับ ลดกลิ่นปาก กลิ่นบุหรี่ คราบหินปูน คราบชา กาแฟ ให้ฟันขาว ลมหายใจหอม สดชื่นยาวนาน มั่นใจตลอดวัน กานพลู ลดแบคทีเรียในช่องปาก เกลือ ลดปัญหาแผลในช่องปากและแผลร้อนในค่ะ

ข้อดี
ข้อด้อย

8.ยาสีฟันฟันขาว THIPNIYOM 160 กรัม 2 หลอด

ยาสีฟันฟันขาว THIPNIYOM ยาสีฟันสูตรนี้มีส่วนผสมของสมุนไพรนานาชนิด เช่น กานพลูทำหน้าที่ลดแบคทีเรียและกลิ่นปาก และยับยั้งการอักเสบหรืออาการเจ็บคอ

และเกล็ดสะระแหน่มอบความรู้สึกเย็นสดชื่นขณะใช้งาน แถมยังทำความสะอาดลดคราบพลัคต่าง ๆ ได้ยอดเยี่ยมอีกด้วยค่ะ

ข้อดี
ข้อด้อย

9.ยาสีฟันฟันขาว TEPTHAI รสดั้งเดิม 70 กรัม

สดชื่นทุกครั้งที่ใช้ มั่นใจทุกครั้งที่พูด เปลี่ยนบรรยากาศในวงสนทนาให้น่าชื่นใจ ด้วยยาสีฟันสมุนไพรเข้มข้น “เทพไทย” ผลิตจากสมุนไพรธรรมชาติ เช่นพิมเสน การบูร ข่อย กานพลู สะระแหน่มีคุณสมบัติในการดูแลปัญหาสุขภาพเหงือก

ฟันผุช่วยลดคราบหินปูน ชา กาแฟ บุหรี่ รวมทั้งกลิ่นปาก เพื่อให้ปากสะอาด ลมหายใจหอมสดชื่น ควรใช้ยาสีฟันในปริมาณน้อย ประมาณเท่าเมล็ดถั่วเขียว เนื่องจากเป็นยาสีฟันสมุนไพรสูตรเข้มข้นค่ะ

ข้อดี
ข้อด้อย

10.ยาสีฟันฟันขาว Himalaya รุ่น ASOKEVEJ-205232

ยาสีฟันฟันขาว Himalaya เป็นยาสีฟันที่มีส่วนผสมของสมุนไพรที่จะทำให้ฟันคุณกลับมาขาวใส โดยใช้เทคโนโลยีสกัดเอนไซม์จากมะละกอและสับปะรดมาช่วยในการขจัดคราบเหลือง คราบพลัค (Plague) ต่าง ๆ

อันเกิดจากหลายปัจจัย เช่น สูบบุหรี่, ดื่มชา, กาแฟเป็นประจำ เป็นต้น และมีส่วนผสมของ Menthol ให้ความรู้สึกสดชื่นขณะใช้และหลังใช้ รวมถึงมีส่วนผสมจากธรรมชาติที่ช่วยเสริมสร้างให้เหงือกแข็งแรง ลดปัญหาเลือดออกตามไรฟันและเหงือกอักเสบได้

สูตรนี้เหมาะกับคนที่มีปัญหาคราบต่าง ๆ ติดแน่นจนหมดความมั่นใจ ต้องการหาตัวช่วยเร่งด่วนที่ราคาไม่สูงมากเมื่อเทียบกับการไปทำเลเซอร์ รวมไปถึงชาว Vegan และมังสวิรัติ

อย่างไรก็ตาม หากให้เด็กอายุต่ำกว่า 6 ปีใช้งาน ควรมีผู้ปกครองดูแลอย่างใกล้ชิด เพราะเด็กอาจกลืนยาสีฟันขณะแปรงฟันทำให้เกิดอันตรายได้ค่ะ

ข้อดี
ข้อด้อย

บทสรุป

การจะมีสุขภาพฟันที่ดีไม่ใช่แค่ฟันขาวสดใสเท่านั้น แต่ต้องใส่ใจปัญหาอื่น ๆ ในช่องปากด้วย เช่น กลิ่นปาก, ฟันผุ, เหงือกอักเสบและอื่น ๆ ที่เกี่ยวกับช่องปากด้วยค่ะ

และเราหวังเป็นอย่างยิ่งว่า 10 อันดับยาสีฟันฟันขาวที่เราแนะนำให้คุณไปนั้นจะเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจซื้อของคุณได้ง่ายขึ้นนะคะ