KJDOO.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาการใช้งานของคุณ อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่

เบบี้ออยล์ ยี่ห้อไหนดี

เบบี้ออยล์ (Baby Oil) เป็นน้ำมันบำรุงผิวที่มีความอ่อนโยนต่อผิวที่บอบบางและแพ้ง่าย แต่ทราบหรือไม่ว่านอกจากจะใช้เป็นครีมบำรุงแล้ว เบบี้ออยล์ยังสามารถใช้ประโยชน์ได้สารพัด

เบบี้ออยล์ ไม่ใช่แค่ใช้ดีกับเด็ก ๆ ได้เท่านั้นนะคะ เพราะวัยรุ่น วัยสาว หรือวัยไหน ๆ ก็ใช้ประโยชน์จากเบบี้ออยล์ได้สารพัดอย่าง และสวยได้ตั้งแต่เส้นผมจนถึงปลายเท้าเลยทีเดียวค่ะ

เบบี้ออยล์

ประโชน์ของเบบี้ออยล์ มีดังนี้

สารบัญ

1.ใช้เช็ดเครื่องสำอางออกได้ง่าย

เบบี้ออยล์สามารถใช้เป็น make up remover เช็ดเครื่องสำอางออกได้อย่างสะอาดหมดจด แบบว่าจะกันน้ำมาจากไหน แค่เช็ดเบา ๆ ก็ลบออกได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้ยังช่วยบำรุงรอบดวงตาให้ชุ่มชื่น

ลดริ้วรอยก่อนวัยได้อีกด้วย เพียงชโลมเบบี้ออยล์ลงในสำลีแล้วเช็ดออกอย่างเบามือค่ะ

2. ใช้หมักผม ช่วยบำรุงให้นุ่มได้

สาว ๆ รู้หรือเปล่าว่าคูณมีผมนุ่มสลวยสวยเก๋ได้ แค่คุณใช้ เบบี้ออยล์ ชโลมลงไปที่เส้นผมหลังสระ และทิ้งไว้สักประมาณ 1 – 2 ชั่วโมง จากนั้นก็ล้างออกด้วยน้ำอุ่น แค่นี้สาว ๆ ก็จะมีผมนุ่ม เป็นประกาย ไม่แห้งหยาบกระด้างแล้วแหละค่ะ

3.เติมความชุ่มชื่นให้ริมฝีปาก

ริมฝีปากที่ดูสุขภาพดี ก็ย่อมน่ามองกว่าริมฝีปากที่แตกแห้งเป็นขุย ทริคง่าย ๆ แค่สาว ๆ ใช้เบบี้ออยล์ทาและนวดเบา ๆ ที่บริเวณริมฝีปาก จากนั้นก็นำผ้าขนหนูชุบน้ำอุ่น ประคบต่ออีกสักครู่ เมื่อทำครบทุกขั้นตอนอย่างนี้ คุณก็ลองดู ริมฝีปากของคุณก็จะนุ่ม ชุ่มชื่นขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเลยค่ะ

4.เก็บกักความชุ่มชื่นให้ผิวนุ่ม สวยใส

ยังมีอีกวิธีหนึ่งที่บอกเลยว่า สวยแบบสบายตัวมาก ๆ ก็คือ ให้คุณหยดเบบี้ออยล์ลงในอ่างอาบน้ำสัก 4 – 5 หยด แล้วนอนแช่ ง่าย ๆ แค่นี้สาว ๆ ก็จะได้ผิวสวยสุขภาพดี เนียนนุ่ม น่าสัมผัส

เพราะว่าเบบี้ออยล์สามารถกักเก็บความชุ่มชื่นให้ผิวได้ดีกว่าโลชันทั่วไปถึง 10 เท่า รับรองว่าต้องมีใคร ๆ มาแอบถามเคล็ดลับผิวสวยจากคุณแน่นอน คอยดูสิ

5.ขัดผิวให้สวยใส

นอกจากเบบี้ออยล์จะมีคุณสมบัติที่ดีในตัวของมันเองแล้ว มันยังสามารถไปผนึกกำลังกับวัตถุดิบเสริมความงามอื่น ๆ ได้อีกนะ อย่างเช่นการใช้เกลือมาช่วยเรื่องขัดผิวนั่นเอง

ขั้นตอนทำสวยคือ ให้สาว ๆ ชโลมเบบี้ออยล์ให้ทั่ว ( ในบริเวณที่ต้องการ ) แล้วขัดด้วยเกลือขัดผิว เน้นในจุดที่แห้งกร้าน จากนั้นก็ล้างออก ทำแบบนี้แค่สัปดาห์ละครั้งก็จะช่วยให้ผิวเปล่งปลั่งขึ้นได้ง่าย ๆ เลยนะคะ

6.บำรุงผิวก่อนโกนขน

ขนคือสิ่งที่ไม่พึงประสงค์ที่สุดของสาว ๆ โดยเฉพาะพวกขนหน้าแข้ง ขนรักแร้ เพราะมันทำให้ความสวยบอบบางของเราลดลงไปเยอะ ดังนั้นเราจึงหาวิธีกำจัดมันด้วยการโกนทิ้งซะเลย! แต่เดี๋ยวก่อนค่ะสาว ๆ คุณจะดุ่มๆ ใช้มีดโกนปาดสัมผัส

กับเนื้อหนังเราเลยไม่ได้ สาว ๆ ควรทาเบบี้ออยล์ลงผิวบาง ๆ ก่อนที่จะโกนขนในส่วนต่าง ๆ วิธีนี้นอกจากจะช่วยให้การโกนเป็นไปอย่างราบรื่นแล้ว ยังช่วยบำรุงผิวในบริเวณที่จำกัดขนได้อีกด้วยค่ะ

7.ช่วยบำรุงเล็บมือและเล็บเท้า

ถ้าเบบี้ออยล์จะบำรุงได้ทั่วตัวขนาดนี้ เรื่องการบำรุงเล็บมือและเล็บเท้า จะเป็นเรื่องที่ทำไม่ได้ได้ยังไง ยิ่งกับสาว ๆ ที่รักการทำเล็บเป็นชีวิตจิตใจ คุณยิ่งต้องหันมาบำรุงเล็บกันอย่างจริงจังแล้วค่ะ ใช้เบบี้ออยล์นวดเบา ๆ ให้ทั่วเนื้อเล็บ

และจมูกเล็บ หมั่นทำบ่อย ๆ วิธีนี้ก็จะช่วยให้ผิวรอบเล็บของสาว ๆ เนียนนุ่ม จมูกเล็บไม่ฟู เนื้อเล็บแข็งแรง และเรียบเนียนขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเลยค่ะ นี่เป็นประโยชน์ของเบบี้ออยล์ที่เราได้นำมาแนะนำให้คุณ ต่อไปเราไปดูวิธีเลือกซื้อกันเลยค่ะ

วิธีเลือกซื้อเบบี้ออยล์

1.เลือกผลิตภัณฑ์ที่ส่วนผสมหลักจากธรรมชาติ

หลายคนคงทราบดีอยู่แล้วว่าผิวของเด็กอ่อนบอบบางมากกว่าผู้ใหญ่ ผลิตภัณฑ์ที่ใช้กับเขาจึงต้องอ่อนโยนมากเป็นพิเศษ โดยเฉพาะเบบี้ออยล์ที่ต้องสัมผัสกับผิวโดยตรงและเคลือบผิวเป็นเวลานาน แนะนำให้คุณแม่เลือกซื้อผลิตภัณฑ์

ที่มีส่วนผสมหลักจากธรรมชาติและปราศจากสารเคมีที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคือง เช่น สีเติมแต่ง, น้ำหอม หรือสารกันเสียพาราเบน

อ่านบทความเกี่ยวข้อง  เครื่องปั้มนมไฟฟ้า เลือกซื้อยี่ห้อไหนดี

วิธีการดูส่วนผสมนั้น ไม่ใช่แค่การดูที่ด้านหน้าขวดอย่างเดียวนะคะ แต่ต้องอ่านลิสต์ของสารต่าง ๆ ที่ด้านหลังขวดด้วยเพื่อความปลอดภัย

อย่างไรก็ตาม รุ่นไหนที่มีกลิ่นหอมไม่ได้หมายความว่าต้องใส่น้ำหอมสังเคราะห์อย่างเดียว บางรุ่นมีกลิ่นเพราะสารสกัดจากธรรมชาติก็มี ก่อนซื้อจึงควรเลือกดูให้ดี ๆ นะคะ

2.อย่าลืมใส่ใจวัตถุประสงค์ที่เราใช้ “ให้ความชุ่มชื้น”, “ทำความสะอาด” หรือ “นวดผ่อนคลาย”

คาดไม่ถึงกันใช่ไหมคะว่าเบบี้ออยล์จะมีหลายสูตร ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์การใช้งาน ดังนั้นใครที่ซื้อเพราะแบรนด์หรือตามกระแสของคนอื่น ๆ อย่างเดียวอาจไม่เพียงพอที่จะทำให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ของคุณกันนะคะ และวิธีเลือก มีดังนี้

  • เพื่อให้ความชุ่มชื้น เลือกที่มีส่วนผสมของ Shea butter และ Ceramide
ใครที่ซื้อเพื่อบำรุงผิวพรรณหรือปกป้องผิวจากความแห้งกร้าน ไม่ว่าจะของลูกน้อยหรือจะของตัวเองก็ดี แนะนำให้เลือกรุ่นที่มีส่วนผสมของมอยเจอร์ไรเซอร์จากธรรมชาติ เช่น Shea butter และ Ceramide

เพราะมีประสิทธิภาพในการกักเก็บความชุ่มชื้นใต้ชั้นผิวสูง ช่วยเพิ่มเกราะป้องกันของผิวหนัง ป้องกันการสูญเสียน้ำและทำให้แข็งแรงขึ้น ยากที่จะระคายเคืองต่อมลภาวะต่าง ๆ เหมาะอย่างยิ่งกับการใช้ช่วงหน้าหนาว

นอกจากนี้สำหรับใครที่ต้องการความชุ่มชื้นมากขึ้นไปอีก แนะนำให้ใช้ “เบบี้โลชั่น” ควบคู่กันไปด้วยนะคะ โดยทาโลชันก่อน รอให้ซึมซาบเรียบร้อยแล้วจึงทาออยล์ทับเพื่อล็อกความชุ่มชื้น เพียงเท่านี้ผิวของคุณหรือลูกน้อยก็จะได้รับความชุ่มชื้นยาวนานแล้วค่ะ

  • สำหรับ “ทำความสะอาด” เลือกสูตร Mineral oil

สำหรับสกินแคร์แล้ว Mineral oil อาจเป็นสารที่หลายคนหลีกเลี่ยง เพราะการทำงานของมันที่เสมือนฟิล์มเคลือบชั้นผิว ซึ่งเมื่อใช้เป็นเวลานานอาจปิดกั้นการถ่ายเทของน้ำและอากาศระหว่างชั้นผิวกับภายนอก

ทำให้ผิวไม่สามารถถ่ายเทของเสีย (เช่น เหงื่อ) ตามธรรมชาติได้ ในทางกลับกันคุณสมบัตินี้กลับส่งผลดีต่อการทำความสะอาด เพราะช่วยลดแรงเสียดสีระหว่างผ้าหรือสำลีที่สัมผัสกับผิวหนัง ทำให้เกิดการระคายเคืองน้อย

อย่างไรก็ตาม ตามที่เราได้เกริ่นไป รุ่นนี้ไม่เหมาะกับการใช้บำรุงผิวนะคะ เพราะค่อนข้างล้างออกยาก อาจก่อให้เกิดการแพ้จนถึงขั้นมีผื่นขึ้นตามผิวหนังให้ต้องรักษากันยกใหญ่ โดยเฉพาะในเด็กอ่อนที่อายุยังไม่ถึง 3 เดือนที่มีผิวบอบบางมากเป็นพิเศษ

  • สำหรับ “นวดผ่อนคลาย” เลือกรุ่นที่มีน้ำมันสกัดจากพืชธรรมชาติ

ใครที่ซื้อเพื่อใช้นวดทำสปาให้กับลูกน้อย แนะนำให้เลือกรุ่นที่มีส่วนผสมของน้ำมันสกัดจากพืชธรรมชาติ เช่น Jojoba, Grape seed, Almond, Olive และ Camellia เพราะค่อนข้างอ่อนโยนกับผิว

แต่ไม่ควรเลือกรุ่นที่ทำจากธรรมชาติ 100% ขนาดนั้นนะคะ เพราะอาจกระตุ้นให้แพ้ได้ นอกจากนี้เมื่อเปิดใช้แล้ว ก็ไม่ควรทิ้งไว้นาน เพราะส่วนใหญ่มักไม่ผสมสารกันเสียค่ะ

3.เลือกส่วนผสมให้เหมาะกับสภาพผิว

ตามที่เราได้กล่าวไปในหัวข้อก่อนหน้านี้ทั้งหมด หลายคนคงเห็นแล้วว่ามีพืชพรรณจากธรรมชาติมากมายที่ถูกใช้เป็นส่วนผสมของเบบี้ออยล์ ซึ่งแต่ละชนิดมีคุณสมบัติที่ไม่เหมือนกัน ดังนั้นเพื่อการดูแลผิวอย่างล้ำลึก คุณจึงควรเลือกให้เหมาะสมกับสภาพผิวกันนะคะ

ถ้าใครกังวลเรื่องผิวแห้งเป็นพิเศษให้เลือกรุ่นที่มีส่วนผสมของ Jojoba oil เพราะอุดมไปด้วยวิตามินเอและอี แต่ถ้าใช้เพื่อปลอบประโลมผิวระคายเคือง แนะนำให้ใช้สูตรที่ผสม Olive oil แทน ในทางกลับกันถ้ากังวลเรื่องความมันมากกว่า

ให้เลือกสูตรที่ผสมน้ำมันข้าวโพดหรือ Almond เพื่อป้องกันการเกิดสิวในเด็ก สุดท้ายนี้ถ้าใครอยากกระตุ้นระบบหมุนเวียนโลหิตเพื่อปกป้องผิวจากความเย็นในฤดูหนาว ให้เลือกสูตรที่มีส่วนผสมของงาหรือเมล็ดองุ่นแทนนะคะ

4.อย่าลืมคำนึงถึงแพ็กเกจว่าใช้งานสะดวกหรือไม่

อาจดูเหมือนไม่สำคัญ แต่สำหรับใครที่ซื้อออยล์เพื่อใช้กับลูกน้อย ซึ่งส่วนใหญ่มักจะทาหลังอาบน้ำหรือหลังขับถ่ายขณะที่เด็กกำลังเปลือย แนะนำให้เลือกแพ็กเกจของผลิตภัณฑ์ที่สามารถจับถนัดในมือเดียว และกดหรือเทใช้ง่ายใน 1 ปั๊ม เพื่อความรวดเร็ว

5.เลือกรุ่นที่มีปริมาณพอเหมาะ

เชื่อว่าหลายคนเวลาเลือกซื้อของ นอกจากส่วนผสมแล้ว มักจะให้ความสำคัญกับปริมาณ ยิ่งถ้าเยอะ ยิ่งคุ้ม แต่อย่าลืมนะคะ ส่วนใหญ่แล้วเบบี้ออยล์มักไม่ผสมสารกันเสีย ทำให้ออยล์มีอายุไม่นาน

เมื่อเปิดใช้แล้วจึงควรใช้ให้หมดภายใน 2-3 เดือน วิธีเลือกก็ควรเลือกที่มีขนาดเล็กไว้ก่อนหากหมดแล้วก็ค่อยกลับไปซื้ออันใหม่มาใช้ ดีกว่าค่ะ

ทั้งหมดก็เป็นวิธีการเลือกซื้อหากใครยังไม่รู้จะเลือกซื้อแบบไหนเราไปดู 10 อันดับเบบี้ออยล์กันต่อเพื่อเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจซื้อของคุณพร้อมแล้วเราไปดูกันเลยค่ะ

แนะนำ 10 อันดับเบบี้ออยล์ ใช้แล้วหน้าเนียน!!

1.เบบี้ออยล์ Johnson 125 มล.

เพราะเราเข้าใจว่าสัมผัสที่อ่อนโยน มีความสำคัญต่อพัฒนาการที่ดีของลูกน้อย จอห์นสัน เบบี้ ออยล์ สูตรปรับปรุง ผ่านการทดสอบการแพ้และระคายเคืองอ่อนโยนต่อผิว เหมาะกับการใช้นวดสัมผัสทารก

ด้วยส่วนผสมของมิเนอรัลออยล์บริสุทธิ์ ช่วยเก็บล็อคความชุ่มชื่นได้ดีกว่าถึง 10 เท่า เมื่อใช้ขณะผิวเปียก ให้ผิวนุ่มชุ่มชื่นน่าสัมผัส ซึมซาบเร็ว ไม่เหนียวเหนอะหนะ นอกจากนี้สามารถใช้จอห์นสัน เบบี้ ออยล์ เพื่อบำรุงความชุ่มชื่นให้ผิว

เส้นผมและหนังศีรษะ นวัตกรรมการปกป้อง 3 ประการเป็นสิ่งที่เรายืนหยัดในการปกป้องลูกน้อย ผ่านการทดสอบความปลอดภัย อ่อนโยน และมีประสิทธิภาพ เด็กใช้ได้ผู้ใหญ่ใช้ดีแน่นอนค่ะ

ข้อดี
ข้อด้อย

2.เบบี้ออยล์ Provamed รุ่น Baby Oil 160 ml

เบบี้ออยล์ Provamed รุ่น Baby Oil 160 ml. หลายคนอาจจะคุ้นชื่อแบรนด์นี้กันมาบ้างแล้ว แต่บางคนอาจจะยังไม่ทราบว่าเขามีผลิตภัณฑ์กลุ่มแม่และเด็กด้วย โดยรุ่นนี้มีความพิเศษอยู่ที่ส่วนผสมหลักจากธรรมชาติ

ได้แก่ Salicorne ช่วยสร้างเกราะป้องกันผิว ลดการสูญเสียน้ำ, Jojoba ปกป้องผิวจากมลภาวะ และ Defensil สารสกัดจากพืช 3 ชนิด ช่วยปลอบประโลมผิวที่ระคายเคืองและฟื้นฟูให้เนียนนุ่ม

นอกจากนี้ยังอุดมไปด้วยวิตามินอี ช่วยคืนความชุ่มชื้นให้ผิวอีกด้วย รุ่นนี้มีเนื้อบางเบาและมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ ทาแล้วซึมซาบไวไม่เหนียวเหนอะหนะและยังอ่อนโยนต่อผิว จึงเป็นอีกรุ่นที่คุณลูกใช้ดีคุณแม่ใช้ได้เลยค่ะ

ข้อดี
ข้อด้อย

3.เบบี้ออยล์ MISTINE รุ่น NATURAL TEA SEED OIL BABY OIL 120ML.

คืนธรรมชาติให้ผิวกายและผิวหน้าของคุณได้ด้วย MISTINE NATURAL TEA SEED OIL BABY OIL รู้สึกสดชื่นพร้อมทั้งได้ผิวชุ่มชื่นจากเนื้อน้ำมันบางเบาที่รับรองว่าทาแล้วคุณจะรู้สึกได้ถึงความสบายได้อย่างเป็นธรรมชาติและไม่ทิ้งคราบไว้ให้คุณอย่างแน่นอน

อ่านบทความเกี่ยวข้อง  ผ้าคลุมให้นม ยี่ห้อไหนดี

และมั่นใจได้กับคุณค่าที่มาจาก Tea Seed Oil ที่ผ่านกระบวนการค้นคว้าวิจัยมาเป็นอย่างดีและมาจากกระบวนการของการสกัดแบบบีบเย็นที่ช่วยล็อกคุณค่าเอาไว้อย่างเต็มที่อีกด้วย นอกจากนี้ยังมีโอเมก้าทั้ง 3 6 และ 9 

มาร่วมทีมเสริมความแข็งแรงเป็นเกราะป้องกันผิวที่ดีให้กับคุณอีกด้วย ที่สำคัญเบบี้ออยล์ตัวนี้จะอ่อนโยนกับผิวของคุณอย่างแน่นอนค่ะ

ข้อดี
ข้อด้อย

4.เบบี้ออยล์ Babi Mild รุ่น เบบี้มายด์ อัลตร้ามายด์ สวีท อัลมอนด์ เบบี้ ออยล์ ทู มิลค์ 100 มล.

เบบี้ออยล์ BabiMild รุ่น เบบี้มายด์ อัลตร้ามายด์ สวีท อัลมอนด์ เบบี้ ออยล์ ทู มิลค์ 100 มล. เป็นผลิตภัณฑ์ออยล์บำรุงผิวสูตรน้ำนม เหมาะสำหรับเด็กและผู้ใหญ่ที่มีผิวบอบบาง เนื้อออยล์เปลี่ยนเป็นน้ำนมทันทีหลังสัมผัสละอองน้ำบนผิว ซึมซาบเร็ว

ไม่เหนียวเหนอะหนะ ผสานคุณค่าเอสเซ้นส์จาก สวีท อัลมอนด์เข้มข้น อุดมไปด้วยวิตามินอีสูง ช่วยเพิ่มและกักเก็บความชุ่มชื่นไว้ที่ผิว ผิวลูกน้อยจึงเนียน นุ่มเด้ง ดูมีสุขภาพดี พร้อมกลิ่นหอมอ่อน ๆ  เป็นธรรมชาติและดีที่สุดสำหรับลูกน้อย

ข้อดี
ข้อด้อย

5.เบบี้ออยล์ CUSSONS สีชมพู 200 มล.

CUSSONS เบบี้ออยส์ สีชมพู 200 มล. เป็นบบี้ออยล์สูตรเนียนนุ่มและอ่อนนุ่มประกอบไป Mineral oil บริสุทธิ์ที่อุดมไปด้วยคุณค่าจากสารสกัดธรรมชาติอย่างน้ำมันอัลมอนด์และกุหลาบ ช่วยมอบความชุ่มชื้นและปลอบประโลมผิวอย่างอ่อนโยน

โดยได้รับการทดสอบทางผิวหนังเรียบร้อยแล้วว่าเสี่ยงต่อการระคายเคืองน้อย นอกจากนี้แพ็กเกจยังจับถนัดมือด้วยการเว้าด้านข้างเล็กน้อย ฝาเปิดปิดได้สะดวก แถมยังมีหลายขนาดให้เลือกซื้ออีกด้วยค่ะ

ข้อดี
ข้อด้อย

6.เบบี้ออยล์ Burt’s Bees รุ่น Baby Bee Nourishing Baby Oil

เบบี้ออยล์ Burt’s Bees รุ่น Baby Bee Nourishing Baby Oil ได้ผ่านการรับรองจากเหล่ากุมารแพทย์มาแล้วและยังมั่นใจได้ว่าปราศจากสารปิโตรเคมีและสารสังเคราะห์ต่าง ๆ อย่างเช่น ธาเลตส์ อย่างแน่นอน

เป็นออยล์บำรุงผิวสามารถใช้ผสมน้ำอุ่นเพื่ออาบ หรือจะใช้หลังการอาบน้ำเพื่อผิวที่อ่อนนุ่ม ชุ่มชื่น และไม่เหนียวเหนอะหนะ น้ำมันแอปริคอตของเรากลั่นรวมกับเกรปซีดออยล์ โอลีฟออยล์ อัลมอนด์ออยล์ วีทเจิร์มออยล์ และอะโวคาโดออยล์

เพื่อเสริมสร้างการบำรุงและป้องกันการเกิดอนุมูลอิสระ เพิ่มวิตามินอีและลาโนลิน เพื่อให้ผิวลูกน้อยและผิวคุณละมุนเนียนนุ่ม และสดชื่นอีกด้วยค่ะ

ข้อดี
ข้อด้อย

7.เบบี้ออยล์ Babi Mild รุ่น Organik by Babi Mild Face and Body Baby Oil 100ML.

เบบี้ออยล์จาก Babi Mild รุ่นนี้ได้รับการรับรองมาตรฐานระดับโลก COSMOS ORGANIC  ผสานคุณค่าจากสมุนไพรออร์แกนิค ทั้ง 5 ชนิดอุดมไปด้วยสารต่อต้านอนุมูลอิสระ

ให้ผิวแข็งแรง ลดการระคายเคืองจากการแพ้และผื่นคัน มีวิตามินเอ บีและอี เข้าช่วยบำรุงผิวให้เนียน นุ่ม อีกทั้งยังอุดมไปด้วยกรดไขมันจำเป็นที่เสริมสร้างความแข็งแรงให้กับผิว

ปราศจากน้ำหอม สี และสารเคมีที่อันตรายต่อผิว เช่น พาราเบน, ซิลิโคน ผ่านการทดสอบไม่ก่อให้เกิดการแพ้  เหมาะสำหรับผิวบอบบางของลูกน้อยและผู้ใหญ่ที่มีผิวบอบบาง แพ้ง่ายค่ะ

ข้อดี
ข้อด้อย

8.เบบี้ออยล์ Narak รุ่นNarak-200ml-140-1

เบบี้ออยล์ Narak เป็นออยล์จากธรรมชาติเกรดนุ่มพิเศษ ซึมซาบได้เร็วกว่า ลูบไล้สบายผิวยิ่งขึ้น ช่วยให้ผิวอ่อนนุ่มชุ่มชื่น เพิ่มคุณค่าด้วยเชียบัตเตอร์ที่มีวิตามิน A และ E สูง

ช่วยปกป้องผิวไม่ให้เกิดริ้วรอยหรือแห้งเสีย เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัยที่มีผิวที่บอบบางและแพ้ง่ายค่ะ

ข้อดี
ข้อด้อย

9.เบบี้ออยล์ D-nee pure รุ่น Organic 200 มล.

เบบี้ออยล์ D-nee pure

เบบี้ออยล์ D-nee pure รุ่น Organic รุ่นนี้มีส่วนผสมของสารสกัดออร์แกนิคจากธรรมชาติ เช่น ข้าวโอ๊ต, ดอกคาโมมายล์และว่านหางจระเข้ จึงอุดมไปด้วยวิตามินอี ช่วยคงความชุ่มชื้นใต้ชั้นผิวได้ดี พร้อมปกป้องผิวจากมลภาวะต่าง ๆ

อ่านบทความเกี่ยวข้อง  คอกกั้นเด็ก เลือกซื้อแบบไหนดี

และลดความหยาบกร้านของผิว โดยปราศจากสารกันเสียพาราเบน ซึ่งได้รับการทดสอบ Hypo-Allergenic Tested โดยแพทย์ผิวหนังเรียบร้อยแล้วว่าเสี่ยงต่อการแพ้น้อย

มีกลิ่นหอมสะอาด เข้มข้นแต่ซึบซาบไว ไม่ทิ้งความเหนอะหนะ หลังใช้แล้วรู้สึกผิวเนียนนุ่มน่าสัมผัสมากขึ้น นอกจากนี้แพ็กเกจยังจับถนัดมือและเปิดปิดง่าย

ข้อดี
ข้อด้อย

10.เบบี้ออยล์ Johnson & Johnson 192ml.

เบบี้ออยล์ Johnson & Johnson รุ่นนี้เหมาะสำหรับคนที่ผิวแห้งและแพ้ง่ายทำให้คุณไม่ต้องกังวลเลยว่าถ้าใช้แล้วจะทำให้คุณมีอาการระคายเคืองเพิ่มขึ้นมาอีกแถมยังไม่เหนียวเหนอะหนะกวนใจคุณเพราะเมื่อทาแล้วก็พร้อมซึมซาบสู่ผิวของคุณได้อย่างรวดเร็ว

แถมยังปราศจากน้ำหอมอีกด้วย ผลพลอยได้ของการทาเบบี้ออยล์ตัวนี้ก็คือกลิ่น Cocoa Butter ที่ทำให้คุณได้ผ่อนคลายมากขึ้นทั้งระหว่างที่ทาและตอนที่ทาแล้วได้พกกลิ่นนี้ติดตัวไปด้วยนั่นเอง

มีติดบ้านไว้อุ่นใจได้เพราะถ้าเกิดคุณบังเอิญมีแผลพุผองหรือไฟไหม้น้ำร้อนลวกขึ้นมาล่ะก็ Johnson’s Baby Oil Gel moisture lotion ตัวนี้แหละที่พร้อมสแตนบายรักษาผิวของคุณเพราะมีส่วนผสมของว่านหางจระเข้อยู่ด้วยค่ะ

ข้อดี
ข้อด้อย

บทสรุป

เป็นยังไงกันบ้างคะกับ 10 อันดับ เบบี้ออยล์ที่เราได้แนะนำไปและใครที่กำลังมองหาเบบี้ออยล์มาใช้และไม่รู้จะเลือกแบบไหนเราหวังว่า 10 อันดับที่เราแนะนำนั้นจะเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจซื้อของคุณได้ง่ายขึ้นนะคะ