การเลือกเครื่องดูดความชื้นที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับการรักษาความสะอาดและสุขอนามัยในบ้านหรือสำนักงาน เครื่องดูดความชื้นที่ดีไม่เพียงแต่ช่วยลดความชื้นในอากาศ แต่ยังมีประสิทธิภาพในการลดกลิ่นอับและป้องกันการเจริญเติบโตของเชื้อรา ซึ่งเป็นปัญหาที่พบบ่อยในพื้นที่ที่มีความชื้นสูง การมีเครื่องดูดความชื้นที่มีคุณภาพสามารถช่วยให้คุณและครอบครัวมีสุขภาพที่ดี
และทำให้สภาพแวดล้อมในบ้านน่าอยู่ยิ่งขึ้น จะนำเสนอข้อมูลและรีวิวเกี่ยวกับเครื่องดูดความชื้นยี่ห้อต่าง ๆ ที่ได้รับความนิยมและมีประสิทธิภาพในการลดกลิ่นอับและป้องกันเชื้อรา เพื่อให้คุณสามารถตัดสินใจเลือกซื้อเครื่องดูดความชื้นที่เหมาะสมกับความต้องการของคุณได้อย่างมั่นใจ
ทำไมต้องใช้เครื่องดูดความชื้น?
สารบัญ
การใช้เครื่องดูดความชื้นมีประโยชน์หลายประการที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน
- ลดการเจริญเติบโตของเชื้อราและแบคทีเรียได้ดีในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสูง การลดความชื้นจะช่วยป้องกันการเจริญเติบโตของเชื้อเหล่านี้
- ความชื้นสูงสามารถทำให้เกิดปัญหาสุขภาพ เช่น ภูมิแพ้ หอบหืด และปัญหาระบบทางเดินหายใจ
- ความชื้นสามารถทำให้ไม้บวมและเกิดการเสียหาย การใช้เครื่องดูดความชื้นจะช่วยรักษาเฟอร์นิเจอร์และโครงสร้างของบ้านให้คงทน
- การลดความชื้นในบ้านจะทำให้คุณรู้สึกสบายมากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อน
วิธีการเลือกเครื่องดูดความชื้น
การเลือกเครื่องดูดความชื้นที่เหมาะสมควรพิจารณาปัจจัยหลายประการ ดังนี้
- ขนาดของพื้นที่ เครื่องดูดความชื้นมีขนาดและความสามารถในการดูดความชื้นที่แตกต่างกัน ควรเลือกเครื่องที่เหมาะสมกับขนาดของพื้นที่ที่คุณต้องการใช้งาน
- ความสามารถในการดูดความชื้นของเครื่องจะวัดเป็นลิตรต่อวัน ควรเลือกเครื่องที่มีความสามารถในการดูดความชื้นที่เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมของคุณ
- ระดับเสียง ควรเลือกเครื่องที่มีระดับเสียงต่ำเพื่อไม่ให้รบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน
- เครื่องดูดความชื้นบางรุ่นมีฟังก์ชันเพิ่มเติม เช่น การตั้งเวลา การควบคุมระยะไกล และการกรองอากาศ ควรพิจารณาฟังก์ชันเหล่านี้ตามความต้องการของคุณ
- ควรเลือกเครื่องที่ง่ายต่อการบำรุงรักษา เช่น การทำความสะอาดและการเปลี่ยนไส้กรอง
10 เครื่องดูดความชื้น ยี่ห้อไหนดี
การเลือกเครื่องดูดความชื้นที่เหมาะสมสามารถช่วยลดปัญหากลิ่นอับ เชื้อรา และภูมิแพ้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ มียี่ห้อที่ได้รับความนิยมดังนี้
1. เครื่องดูดความชื้น XIAOMI รุ่น HD-YWHL02
รายละเอียดสินค้า
เครื่องดูดความชื้น XIAOMI รุ่น HD-YWHL02 เป็นเครื่องลดความชื้นอัจฉริยะที่มีความสามารถในการดูดความชื้นสูงถึง 22 ลิตรต่อวัน ด้วยถังเก็บน้ำขนาด 4.5 ลิตร ตัวเครื่องมีขนาด 300×660 มม. และน้ำหนักสุทธิ 12.5 กิโลกรัม ใช้พลังงานไฟฟ้าสูงสุด 450W และมีระดับเสียงต่ำสุดเพียง 35.5dB ทำให้การทำงานเงียบสงบ นอกจากนี้ยังมีระบบควบคุมเสียงอัจฉริยะและสามารถเชื่อมต่อกับแอพพลิเคชัน Mijia เพื่อการควบคุมและตั้งค่าผ่านสมาร์ทโฟน
- ดูดความชื้นได้ถึง 22 ลิตรต่อวัน เหมาะสำหรับห้องขนาดใหญ่
- ระดับเสียงต่ำสุดเพียง 35.5dB ทำให้ไม่รบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน
- สามารถเชื่อมต่อกับแอพ Mijia เพื่อควบคุมและตั้งค่าผ่านสมาร์ทโฟน
- มีโหมดพิเศษสำหรับการตากผ้า ช่วยให้ผ้าแห้งเร็วขึ้น
- ขนาดใหญ่ อาจจะไม่เหมาะสำหรับห้องที่มีพื้นที่จำกัด
- อาจทำให้เคลื่อนย้ายไม่สะดวก
- ใช้พลังงานไฟฟ้าสูงสุดถึง 450W ซึ่งอาจจะเพิ่มค่าไฟฟ้า
2. เครื่องดูดความชื้น LG รุ่น MD19GQGA1.ATH
รายละเอียดสินค้า
เครื่องดูดความชื้น LG รุ่น MD19GQGA1.ATH เป็นเครื่องลดความชื้นที่มีดีไซน์สวยงามทันสมัย ใช้ระบบ Dual Inverter คอมเพรสเซอร์ที่ช่วยประหยัดพลังงานและลดความชื้นได้สูงสุดถึง 30 ลิตรต่อวัน มีระบบฟอกอากาศ Nano Ion ช่วยลดกลิ่นอับและเชื้อรา พร้อมระบบควบคุมสัมผัสและหน้าจอแสดงผล LED สามารถตรวจสอบระดับความชื้นผ่านแอพพลิเคชัน LG ThinQ ได้อย่างสะดวก ตัวเครื่องมีความจุแท็งก์น้ำ 19 ลิตร และครอบคลุมพื้นที่การใช้งานถึง 80 ตารางเมตร
- ประหยัดพลังงานด้วยระบบ Dual Inverter
- ลดความชื้นได้สูงสุด 30 ลิตรต่อวัน
- มีระบบฟอกอากาศ Nano Ion
- ควบคุมง่ายด้วยระบบสัมผัสและแอพพลิเคชัน LG ThinQ
- มีระดับเสียงรบกวน 33 เดซิเบล
- ต้องการพื้นที่ติดตั้งที่มีพื้นผิวเรียบและแข็งแรง
- ห้ามติดตั้งในที่โดนแสงแดดหรือใกล้ความร้อน
3. เครื่องดูดความชื้น ELEMENTMAX รุ่น EPCS10FYK
รายละเอียดสินค้า
เครื่องดูดความชื้น ELEMENTMAX รุ่น EPCS10FYK ออกแบบมาเพื่อพื้นที่ขนาด 21-30 ตารางเมตร (㎡) โดยใช้แรงดันไฟฟ้า 220-240 โวลต์ (V) และมีกำลังไฟ 90 วัตต์ (W) ความสามารถในการลดความชื้นสูงสุดอยู่ที่ 1080 มิลลิลิตรต่อวัน พร้อมระบบการทำงานที่เงียบและมีประสิทธิภาพสูง โครงสร้างเครื่องเน้นความปลอดภัยและการประหยัดพลังงาน ใช้ความถี่ที่กำหนดไว้ที่ 50 เฮิรตซ์ (Hz)
- การทำงานที่เงียบ ไม่รบกวนการพักผ่อนหรือการทำงาน
- การประหยัดพลังงาน ลดค่าไฟฟ้าในระยะยาว
- ฟังก์ชันครบครัน ทั้งลดความชื้นและทำให้อากาศบริสุทธิ์
- พื้นที่จำกัด เหมาะสำหรับพื้นที่ขนาดเล็กถึงกลางเท่านั้น
- อาจต้องทำความสะอาดและตรวจสอบระบบระบายน้ำบ่อยครั้ง
4. เครื่องดูดความชื้น VBELL รุ่น เครื่องดูดความชื้น
รายละเอียดสินค้า
เครื่องดูดความชื้น VBell รุ่น เครื่องดูดความชื้น มีดีไซน์ทันสมัยและขนาดกะทัดรัด เหมาะสำหรับห้องขนาดเล็กถึงกลาง มีความสามารถในการดูดความชื้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยลดความชื้นในอากาศ ป้องกันการเกิดเชื้อราและกลิ่นอับ มีระบบเซ็นเซอร์อัจฉริยะที่สามารถปรับค่าความชื้นได้ตามต้องการ และมีโหมดการทำงานที่หลากหลาย เช่น โหมดตากผ้า และโหมดไม่รบกวนเวลานอน ทำงานเงียบและประหยัดพลังงาน
- ดีไซน์ทันสมัย ขนาดกะทัดรัดและดีไซน์ที่สวยงาม
- ประสิทธิภาพสูง ดูดความชื้นได้ดี ปรับค่าความชื้นได้ตามต้องการ
- โหมดการทำงานหลากหลาย มีโหมดตากผ้าและโหมดไม่รบกวนเวลานอน
- ทำงานเงียบ ไม่รบกวนการพักผ่อน
- ใช้พลังงานน้อย
- อาจไม่เหมาะสำหรับห้องขนาดใหญ่
- อาจมีราคาสูงเมื่อเทียบกับเครื่องดูดความชื้นทั่วไป
5. เครื่องดูดความชื้น NFY
รายละเอียดสินค้า
เครื่องดูดความชื้น NFY ออกแบบมาเพื่อให้คุณได้รับอากาศที่บริสุทธิ์และมีความชื้นที่เหมาะสมในบ้านหรือรถยนต์ของคุณ ด้วยเทคโนโลยีประหยัดพลังงานและการทำงานที่เงียบสนิท เครื่องนี้สามารถตรวจจับสภาพแวดล้อมอากาศอัตโนมัติและปรับอุณหภูมิและความชื้นให้คงที่อย่างอัจฉริยะ นอกจากนี้ยังมีระบบฟอกอากาศด้วยรังสี UV และไอออนลบเพื่อกำจัดเชื้อโรคและสารพิษต่าง ๆ ปริมาณน้ำสกัดสูงสุดอยู่ที่ 1000 มล. ต่อวัน (ที่อุณหภูมิ 30°C และความชื้น 80%) และมีถังน้ำความจุสูงสุด 2.2 ลิตร ซึ่งสามารถระบายน้ำออกได้โดยตรง
- ใช้พลังงานน้อยแต่มีประสิทธิภาพสูง
- ทำงานโดยไม่มีเสียงลมรบกวน
- ตรวจจับและปรับสภาพแวดล้อมอัตโนมัติ
- ฟอกอากาศขั้นสูง ใช้รังสี UV และไอออนลบในการฟอกอากาศ
- แม้จะมีความจุ 2.2 ลิตร แต่ต้องระบายน้ำออกเมื่อเต็ม
- อาจไม่เหมาะสำหรับพื้นที่ขนาดใหญ่มาก
6. เครื่องดูดความชื้น HOMEMATE รุ่น HOM-1630L2
รายละเอียดสินค้า
เครื่องดูดความชื้น HOMEMATE รุ่น HOM-1630L2 เป็นเครื่องดูดความชื้นที่มีประสิทธิภาพสูง เหมาะสำหรับห้องขนาดไม่เกิน 30 ตร.ม. สามารถลดความชื้นได้ถึง 30 ลิตรต่อวัน พร้อมฟิลเตอร์ HEPA ที่ช่วยกรองฝุ่นและสารก่อภูมิแพ้ ระดับเสียงเพียง 45 เดซิเบล ทำให้ไม่รบกวนการทำงานหรือการพักผ่อน มีระบบตัดการทำงานอัตโนมัติเมื่อน้ำในถังเต็ม และมีฟิลเตอร์ที่สามารถถอดล้างน้ำได้ นอกจากนี้ยังมีช่องสำหรับต่อสายเดรนน้ำ เพื่อระบายน้ำอย่างต่อเนื่อง ทำให้สะดวกสบายในการใช้งาน
- ลดความชื้นได้ถึง 30 ลิตรต่อวัน
- ระดับเสียงเพียง 45 เดซิเบล
- ฟิลเตอร์ HEPA ที่สามารถถอดล้างได้
- ระบบตัดการทำงานอัตโนมัติเมื่อน้ำในถังเต็ม
- มีช่องสำหรับต่อสายเดรนน้ำเพื่อระบายน้ำอย่างต่อเนื่อง
- ไม่ควรเปิดใช้งานขณะนอนหลับเนื่องจากอาจรบกวน
- เหมาะสำหรับห้องขนาดไม่เกิน 30 ตร.ม. เท่านั้น
7. เครื่องดูดความชื้น LEVOIT
รายละเอียดสินค้า
เครื่องดูดความชื้น LEVOIT มาพร้อมกับฟีเจอร์การควบคุมผ่านแอพ VeSync ที่รองรับการเชื่อมต่อกับ Google Assistant และ Amazon Alexa ทำให้สามารถปรับการตั้งค่าและสร้างกำหนดการได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้ยังมีระดับหมอกให้เลือก 4 โหมด ได้แก่ ต่ำ กลาง สูง และอัตโนมัติ ซึ่งโหมดอัตโนมัติจะปรับระดับหมอกเพื่อรักษาความชื้นสัมพัทธ์ที่ 40-50% หรือระดับที่คุณตั้งค่าเอง
เครื่องนี้สามารถเพิ่มความชื้นในห้องขนาด 20-47 ตร.ม. ได้นานถึง 60 ชั่วโมงโดยไม่ต้องเติมน้ำเพิ่ม โหมดสลีปช่วยให้คุณพักผ่อนโดยมีเสียงรบกวนต่ำเพียง 24dB การออกแบบเติมน้ำด้านบนทำให้สะดวกในการเติมน้ำและทำความสะอาด และยังสามารถใส่น้ำมันหอมระเหยเพื่อเพิ่มกลิ่นหอมให้กับห้องได้อีกด้วย ไฟกลางคืนเสริมช่วยเพิ่มความสว่างในขณะที่คุณนอนหลับ
- ควบคุมผ่านแอพ VeSync และเชื่อมต่อกับ Google Assistant และ Amazon Alexa
- มีโหมดหมอกให้เลือกหลายระดับ รวมถึงโหมดอัตโนมัติ
- ใช้งานได้นานถึง 60 ชั่วโมงโดยไม่ต้องเติมน้ำเพิ่ม
- โหมดสลีปเสียงรบกวนต่ำเพียง 24dB
- เติมน้ำและทำความสะอาดง่ายด้วยการออกแบบเติมด้านบน
- รองรับการใช้น้ำมันหอมระเหย
- มีไฟกลางคืนเสริม
- อาจมีปัญหาในการเชื่อมต่อกับ Alexa ในบางครั้ง
- บางผู้ใช้รายงานว่าอุปกรณ์หยุดทำงานหลังจากใช้งานไปสักระยะ
8. เครื่องดูดความชื้น HAFELE รุ่น ECOM-292
รายละเอียดสินค้า
เครื่องดูดความชื้น HAFELE รุ่น ECOM-292 เป็นอุปกรณ์ที่ออกแบบมาเพื่อลดความชื้นในห้องอย่างมีประสิทธิภาพ ผลิตจากพลาสติก ABS สีขาว ขนาดกะทัดรัด (228x150x373 มม.) และน้ำหนักเบาเพียง 2.2 กิโลกรัม (ไม่รวมน้ำในถัง) สามารถดูดความชื้นและสกัดน้ำได้สูงสุดถึง 750 มล. ต่อวัน และมีถังกักเก็บน้ำขนาด 2 ลิตร มีระบบตัดอัตโนมัติเมื่อระดับน้ำในถังเต็ม พร้อมไฟแสดงสถานะการทำงาน เหมาะสำหรับห้องขนาด 20 ตารางเมตร ใช้งานได้ในอุณหภูมิ 5-32 องศาเซลเซียส
- ขนาดกะทัดรัดและน้ำหนักเบา ทำให้สะดวกในการเคลื่อนย้ายและใช้งาน
- ระบบตัดอัตโนมัติเมื่อถังน้ำเต็ม เพิ่มความปลอดภัยในการใช้งาน
- ประหยัดพลังงานและทำงานเงียบ
- ความจุถังน้ำเพียง 2 ลิตร อาจต้องเทน้ำบ่อยในพื้นที่ที่มีความชื้นสูง
- ประสิทธิภาพการลดความชื้นอาจไม่เพียงพอสำหรับห้องขนาดใหญ่กว่า 20 ตารางเมตร
9. เครื่องดูดความชื้น +SIMPLUS รุ่น CUSH002
รายละเอียดสินค้า
เครื่องดูดความชื้น +SIMPLUS รุ่น CUSH002 เป็นเครื่องลดความชื้นขนาด 2.5 ลิตรที่ออกแบบมาให้มีดีไซน์กะทัดรัด เหมาะสำหรับใช้ในออฟฟิศหรือบ้าน ด้วยการทำงานที่ง่ายดายเพียงกดปุ่มเดียวก็สามารถกำจัดความชื้นได้ โดยมีความสามารถในการลดความชื้นได้ 300 มิลลิลิตรต่อวัน ครอบคลุมพื้นที่ใช้งานตั้งแต่ 5-15 ตารางเมตร ตัวเครื่องไม่มีสารเคมีปนเปื้อนและไม่ปล่อยก๊าซที่เป็นอันตราย เสียงรบกวนต่ำและประหยัดพลังงาน ใช้พลังงานเพียง 23 วัตต์และใช้ไฟฟ้าเพียง 0.5 กิโลวัตต์ชั่วโมงต่อวัน มีระบบตัดไฟอัตโนมัติเมื่อน้ำเต็ม และถังน้ำขนาด 600 มิลลิลิตรที่ถอดแยกได้ง่าย ทำความสะอาดง่ายและป้องกันการปนเปื้อนของแบคทีเรีย
- ดีไซน์กะทัดรัด เหมาะสำหรับพื้นที่ขนาดเล็ก
- ใช้งานง่าย เพียงกดปุ่มเดียว
- เสียงรบกวนต่ำ
- ประหยัดพลังงานและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
- ระบบตัดไฟอัตโนมัติเมื่อน้ำเต็ม
- ถังน้ำแยกง่ายต่อการทำความสะอาด
- ความสามารถในการลดความชื้นจำกัดเพียง 300 มิลลิลิตรต่อวัน
- เหมาะสำหรับพื้นที่ขนาดเล็กเท่านั้น (5-15 ตารางเมตร)
- ถังน้ำขนาดเล็กต้องเทน้ำบ่อย
10. เครื่องดูดความชื้น DEERMA รุ่น CS50M
รายละเอียดสินค้า
เครื่องดูดความชื้น DEERMA รุ่น CS50M เป็นเครื่องดูดความชื้นขนาดเล็กที่ออกแบบมาเพื่อใช้งานในพื้นที่จำกัด เช่น ตู้เสื้อผ้า กล่องเก็บรองเท้า และชั้นวางหนังสือ สามารถวางได้ทั้งแนวตั้งและแนวนอน ตัวเครื่องมีเม็ดดูดความชื้นที่สามารถรีไซเคิลได้ โดยการนำไปอบแห้งเพื่อใช้งานใหม่ ครอบคลุมพื้นที่ได้ถึง 30 ตารางเมตร และมีการทำงานที่เงียบ ทำให้ไม่รบกวนการนอนหลับ
- ขนาดเล็กและพกพาสะดวก
- ใช้งานได้ในหลายสถานที่
- เม็ดดูดความชื้นสามารถรีไซเคิลได้
- การทำงานเงียบ
- ครอบคลุมพื้นที่ได้จำกัด
- ต้องอบแห้งเม็ดดูดความชื้นเพื่อใช้งานใหม่
- ประสิทธิภาพอาจไม่เพียงพอสำหรับพื้นที่ขนาดใหญ่
บทสรุป
การเลือกเครื่องดูดความชื้นที่ดีสามารถช่วยลดกลิ่นอับและป้องกันเชื้อราได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในการเลือกซื้อเครื่องดูดความชื้นควรพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ เช่น ขนาดพื้นที่ ความสามารถในการดูดความชื้น ฟังก์ชันเพิ่มเติม เสียงรบกวน และการบำรุงรักษา การใช้งานเครื่องดูดความชื้นอย่างถูกต้องและการดูแลรักษาเครื่องเป็นประจำจะช่วยให้เครื่องทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและยาวนาน