สว่านเจาะปูน ยี่ห้อไหนดี เครื่องมือที่จำเป็นสำหรับงานก่อสร้างและซ่อมแซมบ้าน

สว่านเจาะปูน (Masonry Drill) เป็นเครื่องมือที่ใช้สำหรับเจาะรูในวัสดุที่มีความแข็ง เช่น ปูน คอนกรีต และอิฐ สว่านชนิดนี้มีลักษณะพิเศษที่สามารถทนต่อแรงกระแทกและความแข็งของวัสดุได้ดี โดยทั่วไปแล้วจะมีระบบการทำงานแบบกระแทกหรือโรตารี่เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเจาะวัสดุที่แข็งแรงเลือกใช้สว่านเจาะปูนที่เหมาะสมจะช่วยให้งานเสร็จสิ้นได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

ประเภทของสว่านเจาะปูน

สว่านเจาะปูนมีหลายประเภท แต่ละประเภทมีลักษณะและการใช้งานที่แตกต่างกัน ดังนี้ :

• สว่านไฟฟ้า (Electric Drill)  : ใช้สำหรับงานเจาะทั่วไป เช่น ไม้และโลหะ มีกำลังไฟฟ้าโดยประมาณ 300-550 วัตต์
• สว่านกระแทก (Hammer Drill)  : มีกำลังไฟฟ้ามากกว่า (550-720 วัตต์) เหมาะสำหรับงานเจาะไม้ เหล็ก และปูน
• สว่านโรตารี่ (Rotary Hammer)  : เหมาะสำหรับงานหนัก เช่น การเจาะคอนกรีต มีระบบการทำงาน 3 ระบบ คือ ระบบเจาะ, ระบบกระแทก และระบบสกัด

การเลือกสว่านเจาะปูนที่เหมาะสม

การเลือกสว่านเจาะปูนที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับลักษณะงานและวัสดุที่ต้องการเจาะ ดังนี้ :

• ขนาดและกำลังไฟฟ้า  : งานที่ต้องการเจาะรูขนาดใหญ่หรือวัสดุที่แข็งแรง ควรเลือกสว่านที่มีกำลังไฟฟ้าสูง
• ระบบการทำงาน  : สว่านโรตารี่ที่มีระบบการทำงาน 3 ระบบจะเหมาะสำหรับงานที่ต้องการแรงกระแทกสูง
• ยี่ห้อและคุณภาพ  : เลือกซื้อสว่านจากแบรนด์ที่มีชื่อเสียงและได้รับการยอมรับในตลาด เพื่อความมั่นใจในคุณภาพและความทนทาน.

ดอกสว่านสำหรับเจาะปูน

ดอกสว่านที่ใช้สำหรับเจาะปูนมีลักษณะเฉพาะที่แตกต่างจากดอกสว่านทั่วไป 

• ดอกสว่านเจาะคอนกรีต  : ลักษณะของดอกสว่านจะเป็นเกลียวบิด ปลายดอกเป็นเหล็กกล้าคาร์ไบด์ เหมาะสำหรับการเจาะปูน คอนกรีต ซีเมนต์บล็อก หรืออิฐมอญ

ความสำคัญของสว่านเจาะปูน

• สว่านเจาะปูนช่วยให้การเจาะวัสดุแข็งเป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ลดเวลาและแรงที่ต้องใช้ในการทำงาน 
• สว่านเจาะปูนถูกออกแบบมาให้ทนทานต่อแรงกระแทกและการใช้งานหนัก ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุจากการใช้งาน 
• สามารถใช้เจาะวัสดุหลายประเภท เช่น ปูน คอนกรีต อิฐ และวัสดุแข็งอื่น ๆ ทำให้เป็นเครื่องมือที่มีความยืดหยุ่นในการใช้งาน

เทคนิคการเจาะปูนไม่ให้ฝุ่นฟุ้งกระจาย

การเจาะปูนมักทำให้เกิดฝุ่นฟุ้งกระจาย ซึ่งสามารถแก้ไขได้ด้วยเทคนิคต่าง ๆ ดังนี้

• ใช้ถุงพลาสติก  : นำถุงพลาสติกมาติดกับผนังบริเวณที่ต้องการเจาะ เพื่อให้ฝุ่นและเศษวัสดุตกลงในถุง
• ใช้ขวดน้ำพลาสติก  : เจาะขวดน้ำพลาสติกและนำมาทาบกับผนังเพื่อดักฝุ่น
• ใช้เครื่องดูดฝุ่น  : เปิดเครื่องดูดฝุ่นและจ่อใกล้ๆ บริเวณที่เจาะเพื่อดูดฝุ่นทันที