น้ำตาเทียม (Artificial Tears) มีวัตถุประสงค์เพื่อนำมาใช้หล่อลื่นลูกตา เพราะมีคุณสมบัติใกล้เคียงกับน้ำตาธรรมชาติ ช่วยบรรเทาอาการระคายเคือง อาการแสบหรือไม่สบายตา ซึ่งมีสาเหตุมาจากตาแห้ง
และอาจนำมาใช้เพื่อหล่อลื่นลูกตาสำหรับผู้ที่ใส่คอนแทคเลนส์ น้ำตาเทียมสามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไปโดยที่ไม่ต้องมีใบสั่งแพทย์ อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเพื่อให้สามารถใช้ได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ
น้ำตาเทียมสามารถแบ่งออกได้ 3 รูปแบบ ดังนี้
สารบัญ
1.น้ำตาเทียมรูปแบบสารละลายชนิดขวด มีขนาดบรรจุตั้งแต่ 5 มิลลิลิตร 15 มิลลิลิตร และ 30 มิลลิลิตร
น้ำตาเทียมรูปแบบนี้จะเหมาะกับผู้ที่มีอาการตาแห้งเล็กน้อยและสะดวกใช้เป็นประจำมีราคาตามท้องตลาดถูกกว่ารูปแบบสารละลายชนิดแท่งที่ใช้วันเดียว
และใช้งานง่ายกว่ารูปแบบเจลและแบบขี้ผึ้งป้ายตา ไม่เหนียวเหนอะหนะ สามารถหยอดได้ในช่วงเวลากลางวันโดยไม่ทำให้ตาพร่ามัว แต่มีข้อเสียคือ ต้องใช้บ่อยกว่ารูปแบบเจลและแบบขี้ผึ้งป้ายตา หลังจากการเปิดใช้หยอดยาแต่ละครั้ง
หากปิดขวดยาไม่สนิทหรือเก็บยาไม่มิดชิด อาจเกิดการปนเปื้อนจากสิ่งแวดล้อมได้ง่าย ในการใช้ยารูปแบบนี้จึงต้องเพิ่มความระมัดระวังในการจัดเก็บและการใช้หยอดตาในครั้งถัดไป เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการติดเชื้อที่ดวงตาติดตามมาค่ะ
2.น้ำตาเทียมรูปแบบสารละลายชนิดแท่งใช้วันเดียว หรือ น้ำตาเทียมรายวัน มีขนาดบรรจุหลอดละ 0.3, 0.4 และ 0.8 มิลลิลิตร บรรจุตั้งแต่ 20-60 หลอด ต่อ 1 กล่อง
น้ำตาเทียมรูปแบบนี้จะเหมาะกับผู้ที่มีประวัติการแพ้สารกันเสียในน้ำตาเทียมหรือต้องหยอดตาบ่อย ๆ เป็นเวลานาน เพราะการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของสารกันเสียติดต่อกันเป็นเวลานานจะทำให้เกิดการทำลายเซลล์เยื่อบุกระจกตาได้ มีราคาสูงกว่ารูปแบบแรก
โดยภาชนะบรรจุน้ำตาเทียมรูปแบบนี้จะแบ่งบรรจุเป็นแท่งหรือหลอดเล็ก ๆ ทำให้สามารถแบ่งพกพาได้ตามจำนวนที่ต้องการใช้หยอดตา และสะดวกต่อการใช้งานในแต่ละวันการหยอดยาแต่ละครั้งจะได้ปริมาณน้ำตาเทียมเท่ากันของการหยอดแต่ละครั้งไม่มีสารกันเสีย
จึงมีอายุการใช้งานภายใน 24 ชั่วโมงหลังจากเปิดใช้ครั้งแรก แต่มีข้อดีคือ ให้ความรู้สึกสบายตากว่า สามารถช่วยลดโอกาสตาแพ้สารกันเสียได้ (แต่ยังอาจแพ้สารเพิ่มความหนืดของน้ำตาเทียมได้อยู่) และมีโอกาสปนเปื้อนจากสิ่งสกปรกภายนอกได้น้อยกว่า
3.น้ำตาเทียมรูปแบบเจลและแบบขี้ผึ้งป้ายตา มีขนาดบรรจุ 3.5 กรัม
มีความหนืดมากกว่าน้ำตาเทียมรูปแบบสารละลายชนิดขวดและชนิดแท่งใช้วันเดียว จึงทำให้ความถี่ในการใช้ยาน้อยกว่าทั้ง 2 รูปแบบดังกล่าวด้วยความที่มีความหนืดมากกว่า
ทำให้น้ำระเหยช้าลงจึงช่วยรักษาความชุ่มชื้นให้แก่ดวงตาได้นานกว่า จึงเหมาะสำหรับใช้ในผู้ที่มีอาการตาแห้งระดับปานกลางถึงรุนแรงสามารถใช้ได้นานตามข้อกำหนดในเอกสารกำกับยาของแต่ละบริษัทยา
แต่ต้องเก็บยาหลังการเปิดใช้ด้วยความระมัดระวัง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการปนเปื้อนจากสิ่งแวดล้อม
วิธีใช้น้ำตาเทียม ควรปฏิบัติดังนี้
1.ล้างมือให้สะอาด
2.แหงนหน้าขึ้น โดยให้อยู่ในมุมที่ถนัดที่สุด แล้วใช้มือข้างหนึ่งดึงเปลือกตาล่างลงมาเบา ๆ ให้เป็นกระเปาะหรือกระพุ้งเพื่อเปิดพื้นที่ของการหยอดน้ำตาเทียม
3.เหลือบตามองขึ้นข้างบน และวางปลายหลอดน้ำตาเทียมในตำแหน่งที่ห่างจากดวงตาพอประมาณ แล้วบีบหลอดยาของน้ำตาเทียมให้ยาหยดลงตรงบริเวณดวงตาด้วยมืออีกข้าง
โดยจำนวนที่หยดให้ใช้ตามคำสั่งของแพทย์ผู้ให้การรักษา ซึ่งโดยทั่วไปคือประมาณ 1-2 หยด
(ควรระมัดระวังไม่ให้ปลายหลอดน้ำตาเทียมแตะโดนบริเวณดวงตาหรือใบหน้า หรือสัมผัสปลายนิ้วมือหรือส่วนใดของร่างกาย เพื่อป้องกันการปนเปื้อนของเชื้อจุลินทรีย์เข้าไปเจริญเติบโตอยู่ในยา)
4.จากนั้นให้หลับตาและกลอกตาไปมาประมาณ 2-3 นาที พร้อมกับเอียงศีรษะเพื่อไม่ให้น้ำตาเทียมไหลออกมาจากดวงตา
5.เช็ดยาส่วนเกินที่หยดออกมานอกดวงตาด้วยกระดาษชำระหรือผ้าที่สะอาด
6.ล้างมือหลังหยอดตาให้สะอาด เพราะอย่าลืมว่าการติดเชื้ออาจเป็นที่ตาอีกข้างหนึ่งได้ ถ้าเอามือสกปรกที่แตะหนังตาหรือขี้ตามาถูกตาอีกข้างหนึ่ง
7.หลังจากหยอดน้ำตาเทียมแล้ว ควรหลีกเลี่ยงการกะพริบตาถี่ ๆ เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำตาเทียมไหลออกจากตาเร็วขึ้น และให้ใช้นิ้วมือคลึงเบา ๆ บริเวณหัวมุมของเปลือกตาเพื่อช่วยกระจายน้ำตาเทียมให้ทั่วตา
การใช้น้ำตาเทียมมีข้อควรระวัง ดังต่อไปนี้
1.หากเคยมีประวัติอาการแพ้จากการใช้น้ำตาเทียม ควรหลีกเลี่ยงการใช้หรือปรึกษาแพทย์ก่อนการใช้
2.น้ำตาเทียมใช้สำหรับบรรเทาอาการตาแห้งเท่านั้น ไม่สามารถรักษาสาเหตุของอาการตาแห้งได้
3.หลีกเลี่ยงการใช้น้ำตาเทียมในการรักษาหรือป้องกันการติดเชื้อที่ตา ผู้ที่มีการติดเชื้อที่ตา ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรเพื่อความปลอดภัยในการใช้
4.หากมีความผิดปกติใด ๆ เกิดขึ้นหลังจากใช้น้ำตาเทียม เช่น เกิดอาการระคายเคือง ให้หยุดใช้ทันทีและรีบพบจักษุแพทย์ รวมไปถึงผู้ที่มีอาการตาแห้งรุนแรงหรือเรื้อรัง ควรปรึกษาจักษุแพทย์เพื่อวินิจฉัยหาสาเหตุที่แท้จริง
5.สำหรับผู้ที่ใส่คอนแทคเลนส์ โดยทั่วไปควรเอาคอนแทคเลนส์ออกก่อน จึงค่อยหยอดน้ำตาเทียม ทิ้งไว้ประมาณ 10-15 นาที แล้วจึงค่อยใส่คอนแทคเลนส์กลับไป
เพราะการใช้น้ำตาเทียมชนิดที่มีสารกันเสียอาจทำให้คอนแทคเลนส์เปลี่ยนสี หรืออาจทำลายเซลล์เยื่อบุกระจกตาได้ เช่น สารเบนซาลโคเนียมคลอไรด์ (Benzalkonium Chloride) หากเยื่อบุกระจกตาต้องสัมผัสกับสารนี้เป็นเวลานานอาจทำให้เซลล์เยื่อบุกระจกตาถูกทำลายได้
หรือควรเลือกน้ำตาเทียมที่เหมาะสำหรับใช้กับคอนแทคเลนส์ คือ เลือกใช้น้ำตาเทียมแบบกระเปาะที่ใช้ได้ภายใน 1 วัน หรือเลือกใช้น้ำตาเทียมชนิดที่ไม่ใส่สารกันเสีย หรือใส่สารกันเสียที่มีผลเสียกับเยื่อบุกระจกตาน้อย
6.หากมีความจำเป็นต้องใช้น้ำตาเทียมรวมกับยาหยอดตาชนิดอื่น ควรเว้นให้ห่างกันประมาณ 10 นาที
7.ควรระมัดระวังไม่ให้ปลายหลอดน้ำตาเทียมสัมผัสกับดวงตา ผิวหน้า หรือส่วนใดของร่างกาย เพราะอาจทำให้ปนเปื้อนเชื้อแบคทีเรียจนทำให้เกิดการติดเชื้อตามมาได้
8.น้ำตาเทียมทุกชนิด เมื่อหมดอายุแล้วควรทิ้งส่วนที่เหลือทันทีและห้ามนำมาใช้
9.ควรเก็บน้ำตาเทียมไว้ที่อุณหภูมิห้อง ประมาณ 15-30 องศาเซลเซียส และห้ามแช่แข็ง
10.สำหรับผู้ที่ตั้งครรภ์ ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรเพื่อความปลอดภัยในการใช้ อย่างไรก็ตาม ยังไม่พบว่าการใช้น้ำตาเทียมมีอันตรายต่อทารกในครรภ์ หรือสตรีให้นมบุตร
วิธีเลือกน้ำตาเทียม
1.หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีสารกันเสีย (Benzalkonium Chloride)
สิ่งสำคัญมากที่สุดในการเลือกน้ำตาเทียมคือการหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารกันเสียชนิดรุนแรงเช่น Benzalkonium chloride
เพราะแม้ว่าจะช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียและเชื้อโรคต่าง ๆ แต่หากใช้ซ้ำติดต่อกันเป็นเวลานานก็สามารถทำลายเซลล์เยื่อบุกระจกตาได้เช่นกัน
2.เลือกส่วนประกอบให้เหมาะสมกับอาการของดวงตา
ในปัจจุบันยาหยอดตาหรือน้ำตาเทียมมีอยู่มากมายหลายสูตร ซึ่งแต่ละสูตรมีส่วนผสมที่ต่างกันออกไป และส่วนผสมที่แตกต่างกันนี้ก็มีสรรพคุณช่วยบรรเทาอาการที่เฉพาะเจาะจง เราควรจะเลือกอย่างไรให้เหมาะกับตัวเองนั้น ตามมาดูกันเลยค่ะ
- อาการระคายเคือง คัน หรือเส้นเลือดฝอยในตาแตก
หากคุณมีอาการตาแห้งพร้อม ๆ กับอาการคันและเส้นเลือดฝอยในตาแตกร่วมด้วย ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีคุณสมบัติช่วยรักษาอาการคันโดยเฉพาะ
เพราะยาหยอดตาทั่วไปที่มีเพียงมอยเจอร์ไรเซอร์อาจไม่สามารถบรรเทาอาการดังกล่าวได้ พยายามหลีกเลี่ยงยาหยอดตาหรือน้ำตาเทียมที่มีส่วนผสมของสารที่ทำให้เส้นเลือดหดตัวเพราะสารนั้น ๆ
อาจทำให้ตาแห้งยิ่งไปกว่าเดิม หากอาการไม่ดีขึ้น แนะนำให้ปรึกษาเภสัชกรหรือแพทย์เฉพาะทางจะดีที่สุด
- อาการตาอ่อนล้า
อาการตาเหนื่อยอ่อนล้านอกจากจะมีสาเหตุมาจากการใช้สายตาอย่างหักโหมแล้วยังเกิดจากตาแห้งด้วยเช่นกัน ดังนั้นคุณจึงควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของวิตามินและมอยเจอร์ไรเซอร์สูง
เช่น กรดไฮยาลูรอนิค เพราะสารเหล่านี้จะทำให้คุณรู้สึกกระปรี้กระเปร่าและชุ่มชื้น นอกจากนี้ยังช่วยกักเก็บน้ำไว้ในดวงตาได้นานขึ้นอีกด้วย
3.ป้องกันอาการระคายเคืองโดยการเลือกใช้น้ำตาเทียมแทนยาหยอดตา
ตามปกติแล้ว น้ำตาเทียมจะมีส่วนผสมของ Sodium chloride และ Potassium chloride เพื่อให้ใกล้เคียงกับส่วนประกอบของน้ำตามนุษย์มากที่สุด
ดังนั้นจึงเกิดการระคายเคืองได้น้อย ใครที่ไม่อยากเสี่ยงกับการดูส่วนผสมของยาหยอดตาต่าง ๆ การเลือกใช้น้ำตาเทียมก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ
4.อย่าลืมตรวจสอบความคุ้มค่าและความถี่ในการใช้งาน
ปัจจุบันนี้ยาหยอดตาและน้ำตาเทียมมักทำบรรจุภัณฑ์เป็น 2 รูปแบบ คือ “แบบขวด” และ “แบบกระเปาะ” ซึ่งทั้งสองแบบนี้หากถูกเปิดใช้งานแล้ว จะมีอายุการใช้งานที่จำกัดเหมือนกัน โดยทั่วไปแบบขวดจะอยู่ได้ 1 เดือน
และแบบกระเปาะจะอยู่ได้ 1 วัน ดังนั้นคุณควรเลือกผลิตภัณฑ์ให้เหมาะสมกับความถี่ในการใช้งานก่อนจะซื้อ
สำหรับการหยอดตา โดยทั่วไปควรหยอดครั้งละ 1 หยดเท่านั้น เพราะดวงตาของเราสามารถกักเก็บน้ำได้ประมาณ 0.03 ml. ในขณะที่น้ำตาเทียม/ยาหยอดตาหนึ่งหยดมีปริมาณถึง 0.05 ml.
หากคุณหยอดเพิ่มเข้าไปอีก น้ำยาจะไหลออกมาแทน ดังนั้นจึงควรกะปริมาณในการใช้ให้ดี วันนี้เรามี 10 อันดับน้ำตาเทียมมาแนะนำพร้อมแล้วไปดูกันเลยค่ะ
แนะนำ 10 ยี่ห้อยอดฮิตน้ำตาเทียม
1.น้ำตาเทียม ROHTO รุ่น ROHTO vita40 น้ำตาเทียมความเย็นระดับ 3
ยาหยอดตา Rohto จากญี่ปุ่น รุ่นนี้มีส่วนผสมของกรดอะมิโน (amino acids) และวิตามินถึง 4 ชนิด ซึ่งได้แก่ Vitamin E ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต ลดอาการเลือดคั่งในตา Vitamin B6 ช่วยกระตุ้นกระบวนการผลิตเซลล์
ทำให้การทำงานของเซลล์ในดวงตาเป็นปกติ ลดอาการ เมื่อยล้าจากการใช้สายตาติดต่อกันเป็นเวลานาน Sodium (Natrium) (โซเดียม) ช่วยคงความชุ่มชื้นให้กับดวงตาและป้องกันการติดเชื้อ Potassium(Kalium) (โพแทสเซียม)
ซึ่งจะช่วยเพิ่มออกซิเจนและความชุ่มชื้นในดวงตา มีส่วนช่วยบำรุงและถนอมดวงตา ลดความอ่อนล้าจากการใช้สายตานาน ๆ ลดอาการตาแห้งระคายเคือง เพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ดวงตา ฟื้นฟูดวงตาจากอาการเมื่อยล้า
บำรุงดวงตาให้สดชื่น สุขภาพดี สะอาด ลดอาการปวดตา แสบตา ช่วยให้ดวงตาสะอาด มีสุขภาพดีค่ะ น้ำตาเทียมรุ่นนี้สามารถใช้ได้ทั้งผู้ที่สายตาปกติและผู้ที่สวมใส่คอนแทคเลนส์ค่ะ
- มีวิตามิน E , B6 , Na , K
- บำรุงสายตาและเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ดวงตา
- มีความเย็นระดับ 3
- หยอดขณะไม่ใส่คอนแทคเลนส์
- ยังไม่พบข้อเสียจากผู้ใช้งาน
2. Hialid 0.3 น้ำตาเทียม รักษาอาการตาแห้ง คันตา ระคายเคืองตา 5ml
Hialid 0.3 น้ำตาเทียม รักษาอาการตาแห้ง คันตา ระคายเคืองตา 5ml น้ำตาเทียม เป็นยาปราศจากเชื้อ หนืด ใส ไม่มีสี มีตัวยาสำคัญคือ Purified Sodium Hyaluronate ซึ่งเป็นสารชีวภาพ ที่มีคุณสมบัติอุ้มน้ำและมีประสิทธิภาพ ในการสมานแผลให้หายเร็วขึ้น
- สมานบาดแผลของผิวกระจกตา
- ใช้รักษาผิวของเยื่อตาขาวที่เกิดร่วมกับอาการตาแห้ง
- หาซื้อยาก
3.น้ำตาเทียม Maxim Contact Lens รุ่น Tear Mac
น้ำตาเทียม Maxim ขนาด 10 มิลลิลิตร มีส่วนประกอบของ Caboxymethyl Cellulose Sodium บรรเทาอาการระคายเคืองนัยน์ตา รักษาอาการตาแห้ง หรืออาการไม่สบายตา
จากการโดนลมและแสงแดด วิธีใช้หยอดตา ครั้งละ 1-2 หยดและไม่ควรใช้น้ำตาเทียมกับคนที่แพ้สารที่เป็นส่วนประกอบของน้ำยาค่ะ
- บรรเทาอาการระคายเคืองนัยน์ตา
- รักษาอาการตาแห้งได้ดี
- ราคาไม่แพง
- ยังไม่พบข้อเสียจากผู้ใช้งาน
4.น้ำตาเทียม ALCON รุ่น Systane Ultra UD
น้ำตาเทียม ALCON รุ่น Systane Ultra UD มีประสิทธิภาพสูง บรรเทาอาการตาแห้ง ช่วยให้ดวงตาผ่อนคลายและบรรเทาอาการระคายเคืองตา ดวงตาของคุณจะรู้สึกสบาย จึงไม่กระทบต่อชีวิตประจำวันของคุณอีกต่อไป
วิธีใช้ สามารถใช้ได้ตามความต้องการหรือตลอดวัน ถ้ามีอาการระคายเคืองไม่สบายตา ตาพร่าขณะใส่เลนส์ หยอดตา 1-2 หยด และกระพริบตา 2-3 ครั้งค่ะ
- ใช้รักษาโรคตาแห้งมาก
- ใช้หลังการผ่าตัดดวงตา ผ่าตัดต้อกระจก
- ใช้ผ่าตัดแก้ไขสายตาผิดปกติ (เลสิก)
- ไม่ใส่สารกันเสีย
- ราคาแพง
5.น้ำตาเทียม Cellufresh รุ่น Cellufresh MD 15 ml.
น้ำตาเทียม Cellufresh รุ่นนี้ช่วยบรรเทา อาการตาแห้ง และระคายเคืองตาด้วยสูตรที่คล้ายกับน้ำตาในร่างกายประกอบด้วยสารกันเสีย ที่มีลักษณะเฉพาะตัว
มีความอ่อนโยน และมีโอกาสในการเกิดการแพ้ต่ำและที่สำคัญมีส่วนประกอบของน้ำตาธรรมชาติอีกด้วยค่ะ
- ใช้แล้วไม่ระคายเคือง
- บรรเทาอาการตาแห้ง
- ราคาไม่แพง
- ยังไม่พบข้อเสียจากผู้ใช้งาน
6.น้ำตาเทียม ALCON รุ่น Ultra UD
น้ำตาเทียม ALCON รุ่น Ultra UD ขนาด 0.5 ml น้ำตาเทียมรุ่นนี้ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับดวงตาได้เร็วและนาน บรรเทาอาการเจ็บตา แสบตา ระคายเคืองตา ตาแห้ง เนื่องจากฝุ่น ควัน โอโซน แสงยูวี ความร้อน
เครื่องปรับอากาศ ลม เครื่องสำอาง หรือการเพ่งสายตา ดูโทรทัศน์หรือคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานและที่สำคัญไม่มีสารกันเสีย
วิธีใช้ ใช้ได้ตามความต้องการตลอดวัน ถ้ามีอาการระคายเคืองไม่สบายตา หยอดตา 1-2 หยด และกระพริบตา 2-3 ครั้งค่ะ
- ช่วยทำความชุ่มชื้นให้กับดวงตาในระหว่างวัน
- ช่วยบรรเทาอาการระคายเคืองตาซึ่งอาจเกิดจากตาแห้งขณะใส่เลนส์
- ช่วยทำความชุ่มชื้นให้ผู้ที่รักษาตัวหลังทำเลสิก
- ไม่มีสารกันเสีย
- ยังไม่พบข้อเสียจากผู้ใช้งาน
7.น้ำตาเทียม Rohto Eye Drops รุ่น Vita 40
น้ำตาเทียมรุ่นนี้เหมาะสำหรับผู้ใส่คอนเทคเลนส์ ใช้สายตาหนัก จ้องจอคอมพิวเตอร์หรือหน้าจอมือถือเป็นเวลานาน ๆ ช่วยเพิ่มออกซิเจนและความชุ่มชื้นในดวงตา กระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต ลดอาการเลือดคั่งในตา
ป้องกันการติดเชื้อผู้ที่มีสายตาปกติก็สามารถใช้ได้ และน้ำตาเทียมรุ่นนี้มีส่วนผสมของกรดอะมิโน (amino acids) และวิตามินถึง 4 ชนิด ซึ่งวิตามินทั้ง 4 ชนิดนี้มีส่วนช่วยบำรุงและถนอมดวงตา ลดความอ่อนล้าจากการใช้สายตานาน ๆ
ลดอาการตาแห้งระคายเคือง เพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ดวงตา ฟื้นฟูดวงตาจากอาการเมื่อยล้า บำรุงดวงตาให้สดชื่น สุขภาพดี สะอาด ลดอาการปวดตา แสบตา ช่วยให้ดวงตาสะอาด ในทุก ๆ วันค่ะ
- ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต ลดอาการเลือดคั่งในตา
- ช่วยกระตุ้นกระบวนการผลิตเซลล์ ทำให้การทำงานของเซลล์ในดวงตาเป็นปกติ
- ช่วยคงความชุ่มชื้นให้กับดวงตาและป้องกันการติดเชื้อ
- ช่วยเพิ่มออกซิเจนและความชุ่มชื้นในดวงตา แก้ปัญหาตาแห้งระหว่างวันได้ดี
- ราคาไม่แพง
- ยังไม่พบข้อเสียจากผู้ใช้งาน
8.น้ำตาเทียม Silom Medical รุ่น Natear UD Lubricat Eye Drops 28Tubes
น้ำตาเทียม Silom Medical รุ่น Natear UD Lubricat Eye Drops 28Tubes ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ดวงตา และบรรเทาอาการระคายเคืองตาหรือตาแห้ง เหมาะสำหรับผู้ใส่คอนเเทคเลนส์และที่สำคัญปราศจากสารกันเสีย
วิธีใช้ หยอดตาครั้งละ 1-2 หยด วันละ 2-3ครั้ง หรือหยอดยา 2-3 หยดบนคอนแทคเลนส์ก่อนใส่เลนส์เข้าตาค่ะ
- บรรเทาอาการตาเเห้ง ระคายเคืองตา
- ช่วยอาการระคายเคืองในผู้ใส่คอนเเทคเลนส์
- ปราศจากสารกันเสีย
- ราคาแพง
9.น้ำตาเทียม Santen รุ่น Hiaild 0.1
น้ำตาเทียม Santen รุ่น Hiaild 0.1 มีตัวยาสำคัญคือ Purified Sodium Hyaluronate ซึ่งเป็นสารชีวภาพ ที่มีคุณสมบัติอุ้มน้ำและมีประสิทธิภาพ
ในการสมานแผลให้หายเร็วขึ้น และใช้สำหรับสมานบาดแผลของผิวกระจกตา-ใช้รักษาผิวของเยื่อตาขาวที่เกิดร่วมกับอาการตาแห้ง
วิธีใช้ ใช้หยอดตาครั้งละ 1 หยด วันละ 5-6 ครั้ง
- สมานบาดแผลของผิวกระจกตา
- ใช้รักษาผิวของเยื่อตาขาวที่เกิดร่วมกับอาการตาแห้ง
- ยังไม่พบข้อเสียจากผู้ใช้งาน
10.น้ำตาเทียม ALCON รุ่น Tear Naturale Free
น้ำตาเทียม ALCON รุ่น Tear Naturale Free รุ่นนี้เป็นสูตรพิเศษ ที่ปราศจากสารกันบูด หรือPreservativeจึงไม่ทำให้เกิดอาการระคายเคืองตาที่อาจเกิดจากสารกันบูดบางชนิดได้
น้ำตาเทียมรุ่นนี้เหมาะสำหรับผู้ที่สวมใส่คอนแทคเลนส์และผู้ที่มีอาการตาแห้ง พกพาสะดวกและสามารถใช้ได้ทุกวันหากใช้แล้วควรทิ้งในทันทีเพื่อป้องกันการปนเปื้อนของเชื้อโรคค่ะ
- ไม่ใส่สารกันบูด
- ใช้ได้ทุกวัน สามารถพกพาสะดวก
- เหมาะกับผู้ที่สวมใส่คอนแทคเลนส์
- ใช้แล้วทิ้ง ป้องกันการปนเปื้อน
- ยังไม่พบข้อเสียจากผู้ใช้งาน
บทสรุป
เป็นยังไงกันบ้างคะกับ 10 อันดับน้ำตาเทียมที่เราได้แนะนำให้คุณในวันนี้และน้ำตาเทียมก็มีให้คุณได้เลือกมากมายหลายยี่ห้อ
และเราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าน้ำตาเทียมที่เราได้แนะนำให้คุณไปนั้นจะเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจซื้อของคุณได้ง่ายขึ้นนะคะพบกันใหม่ในบทความหน้าค่ะ