KJDOO.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาการใช้งานของคุณ อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่

Search Results for:

เครื่องดูดฝุ่น ยี่ห้อไหนดี

จะว่าไปแล้วการทำความสะอาดบ้านก็อาจจะเป็นเรื่องน่าเบื่อสำหรับใครหลายคน โดยเฉพาะการจับไม้กวาด ปัดๆ ไปมากว่าจะทั่วทั้งบ้านก็เล่นเอาหมดแรงกันเลยทีเดียว งั้นก็ลองใช้ เครื่องดูดฝุ่น ดูมั้ยคะปัจจุบันมีเทคโนโลยีที่ทันสมัยมากมายที่มาอำนวยความสะดวกให้กับแม่บ้าน ดังนั้นสำหรับแม่บ้านยุคใหม่แล้วคงไม่มีใครไม่รู้จัก เครื่องดูดฝุ่น ด้วยเจ้าเครื่องนี้ผู้ใช้สามารถประหยัดเวลาในการทำความสะอาดได้อย่างมากและทำความสะอาดได้มากขึ้นกว่าเดิมเพราะผู้ผลิตได้ออกแบบเครื่องดูดฝุ่นให้มีขนาดที่เหมาะสมต่อการทำความสะอาดในแต่ละพื้นที่ของบ้านทำให้พื้นที่ที่เราคิดว่ายากจะไม่ยากอีกต่อไปและสามารถทำความสะอาดได้สะอาดมากขึ้นอีกด้วย พอได้ยินแบบนี้แล้วเราเชื่อว่าคุณคงเป็นอีกหนึ่งคนที่คิดอยากจะจับจองเครื่องดูดฝุ่นซักเครื่องเอาไว้ประจำบ้านแล้วสินะเพราะจะทำให้คุณประหยัดเวลาในการทำความสะอาดมากขึ้นและยังมีเวลาชิวๆ เพิ่มอีกด้วยหลักในการเลือกซื้อเครื่องดูดฝุ่น เครื่องดูดฝุ่นเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าอีกชนิดหนึ่งที่สามารถช่วยผ่อนแรงเราได้เยอะเลยทีเดียว บางบ้านมีเครื่องดูดฝุ่นดีๆสักเครื่องก็แทบจะไม่ต้องกวาดบ้านกันเลยก็ว่าได้การเลือกซื้อเครื่องดูดฝุ่นต้องรู้จักพิจารณาข้อมูลและคุณสมบัติต่างๆของเครื่องดูดฝุ่นเพื่อให้ได้สิ่งที่ดีและคุ้มค่าที่สุดมาใช้งาน10 อันดับ เครื่องดูดฝุ่น ที่น่าใช้ที่สุด 1. Sharp เครื่องดูดฝุ่น - รุ่น EC-LS18-V 1800 วัตต์ สีม่วง รายละเอียดสินค้า กำลังไฟ 1,800 วัตต์สัญญาณไฟเตือนเมื่อฝุ่นเต็มกรองฝุ่น 4 ขั้นตอนแผ่นกรองฝุ่น HEPA Filterความจุฝุ่น 2 ลิตร เช็คราคาและส่วนลด !! ขจัดฝุ่นให้เกลี้ยง ใครว่ายาก เพียงแค่มี Sharp เครื่องดูดฝุ่น - รุ่น EC-LS18-V 1800 วัตต์ สีม่วง เครื่องดูดฝุ่น ดีไซน์ทันสมัย อีกหนึ่งตัวเลือกที่จะช่วยให้คุณขจัดฝุ่นได้อย่างรวดเร็ว และง่ายดายยิ่งขึ้น ทำให้คุณลืมคำถามและวิธีการขจัดฝุ่นกับเครื่องดูดฝุ่นแบบเดิมๆไปได้เลย คุณสมบัติ กรองฝุ่น 4 ขั้นอย่างเหนือชั้นSharp เครื่องดูดฝุ่น - รุ่น EC-LS18-V 1800 วัตต์ สีม่วง กำลังไฟ 1,800 วัตต์ มีระบบกล่องเก็บฝุ่น จึงทำให้คุณสามารถเทฝุ่นทิ้งได้สะดวก และง่ายดาย พร้อมสัญญาณไฟเตือนเมื่อฝุ่นเต็ม เครื่องดูดฝุ่นนี้มีขั้นตอนการกรองฝุ่น 4 ขั้นตอน พร้อมแผ่นกรองฝุ่น HEPA Filter เพื่อการกำจัดฝุ่นได้อย่างหมดจด แล้วทุกการหายใจของคุณจะบริสุทธิ์มากกว่าเคยทนทาน ยาวนานSharp เครื่องดูดฝุ่น - รุ่น EC-LS18-V 1800 วัตต์ สีม่วง ผลิตจากวัสดุคุณภาพจึงทำให้คุณสามารถใช้งานได้อย่างยาวนาน และทนทานต่อการใช้งาน ไม่ต้องเสียเงินซื้อใหม่บ่อยๆอีกต่อไปใช้งานง่ายSharp เครื่องดูดฝุ่น - รุ่น EC-LS18-V 1800 วัตต์ สีม่วง มีดีไซน์สวยงาม สีสันสดใส ขนาดกะทัดรัด ง่ายทั้งต่อการจัดเก็บและการใช้งาน เหมาะสำหรับครอบครัวยุคใหม่ ที่ต้องใช้เวล่ทำความสะอาดบ้านอย่างรวดเร็ว และหมดจด มีขนาด 286 x 379 x 250 มม. และมีน้ำหนัก 5.7 กก. สินค้ารับประกัน 1 ปีกำลังไฟ (วัตต์ ) : 1,800กำลังการดูด (วัตต์) : 380ระบบการกำจัดฝุ่นละออง : ระบบกล่องเก็บฝุ่นความจุกล่องเก็บฝุ่น (ลิตร) : 2.0ไฟสัญญาเตือนเมื่อฝุ่นเต็ม…
Read More

เตาอบขนม

เตาอบขนม คืออะไร ? เตาอบ (oven) เป็นอุปกรณ์สำคัญในการทำอาหารอบ มีใช้กันมาตั้งแต่ก่อนคริสตกาล ชาวอียิปต์ได้ใช้เตาอบแบบง่าย ๆ ที่ไม่มีปล่องไปอบขนมปัง หลังจากนี้พวกกรีกได้ดัดแปลงเตาอบให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยการนำเอาเตาอบแบบอียิปต์โบราณมาดัดแปลงเป็นเตาอบที่ก่ออิฐเป็นรูปโดม ทำให้ได้อาหารอบที่มีคุณภาพดีกว่าเดิมสมัยกรีกยุคต้น ใช้ชามใบใหญ่ทำจากดินเผาวางไว้เหนือกองไฟ จนกระทั่งสมัยโรมันช่วงกลางถึงปัจจุบัน การอบอาหารได้ทำในอิฐที่ก่อขึ้นอย่างง่ายเหนือเตาไฟ ยุคอเมริกาขณะที่เป็นเมืองขึ้นการอบอาหารทำในเตาอบดัตซ์  เตาอบเหล่านี้ได้รับความร้อนจากฟืนที่ใส่ไว้ด้านใน เมื่ออิฐร้อนทั่วกันและเผาไหม้จนเกิดขี้เถ้า ขี้เถ้าจะถูกเอามาใส่หลุมขี้เถ้าด้านในปล่องไฟของเตาอบจะถูกปิด และอาหารจะถูกอบอยู่ในภาชนะจนสุก  แม่บ้านในยุคนี้จะมีประสบการณ์ในการควบคุมอุณหภูมิของเตาอบโลหะ และเตาครัว เริ่มใช้ในประเทศอังกฤษและอเมริกาช่วงสุดท้ายของศตวรรษที่ 18 (แต่ยังไม่ปรากฏแน่ชัดว่าเริ่มใช้ครั้งแรกในขณะที่อเมริกาเป็นเมืองขึ้น) ตำราอาหารในช่วงนั้นบันทึกไว้ว่า เจ้าของเตาอบไม่สามารถใช้เครื่องมือนี้ได้ เตาอบโลหะและการทำขนมได้กระทำกันอย่างแพร่หลาย จนถึงศตวรรษที่ 20 แก๊สและไฟฟ้าได้ถูกนำมาใช้ในการอบอาหาร ความสามารถในการควบคุมอุณหภูมิในเตาอบ ทำให้การอบอาหารอยู่ตัวดีขึ้น ประเภทของเตาอบ แบ่งเป็น 3 ประเภทใหญ่ๆ ดังนี้ 1. เตาอบธรรมดา (Convemtion Oven) เป็นเตาอบที่ใช้อบอาหารโดยเฉพาะ มีทั้งชนิดที่ใช้แก๊ส และ ไฟฟ้าเป็นเชื้อเพลิง เป็นเตาอบที่ใช้กันอยู่ทั่วไป ส่วนใหญ่นิยมใช้แก๊สเป็นเชื้อเพลิง เพราะแก๊สมีราคาถูกเมื่อเทียบกับการใช้ไฟฟ้าเป็นเชื้อเพลิง เตาอบชนิดนี้เป็นเตาอบที่ผลิตได้ในบ้านเรา ทั้งชนิดที่ทำจากเหล็กผสมสแตนเลส และชนิดที่ทำจากเหล็กทั้งหมด โดยด้านนอกจะพ่นสีเคลือบสนิม และเพิ่มความสวยงาม ส่วนชนิดที่ทำจากสแตนเลส ภายนอกของเตาจะหุ้นสแตนเลสเพื่อความสวยงาม และง่ายต่อการทำความสะอาด แต่ส่วนอื่นภายในเตาอบยังคงเป็นเหล็กเหมือนเดิม เนื่องจากเหล็กเป็นโลหะที่เก็บความร้อนได้ดีและราคาถูกกว่าสแตนเลส เตาชนิดนี้จะมีทั้งไฟบนและไฟล่างให้เลือกใช้ แต่มีข้อเสียคืออุณหภูมิภายในเตาอบไม่สม่ำเสมอ ด้านที่อยู่ใกล้ประตูอุณหภูมิจะต่ำกว่าด้านใน บางครั้งจึงพบว่าขนมปัง คุกกี้ อาหารที่นำมาอบที่อยู่ด้านในจะสุกก่อน ในขณะที่ส่วนที่อยู่ด้านใกล้ประตูยังไม่สุก หรือสุกแล้วแต่ยังมีสีอ่อนอยู่ 2. เตาอบพาความร้อน (Convenction or Fan Oven) เป็นเตาอบที่มีพัดลมติดตั้งอยู่ภายในเตาอบ คอยเป่าความร้อนให้กระจายไปทั่วเตา ทำให้ความร้อนกระจายได้สม่ำเสมอทั่วทั้งเตา เตาอบแบบนี้เวลาใช้ต้องใช้ทั้งไฟบนและไฟล่าง ไม่สามารถเลือกใช้อย่างใดอย่างหนึ่งได้ 3. เตาอบรุ่นใหม่ (New Gerneration of Oven) เป็นเตาอบแบบผสม ซึ่งมีทั้งไฟบนและไฟล่าง มีพัดลมคอยเป่าคลายความร้อน บางรุ่นจะมีเตาระบบไมโครเวฟอยู่ภายในด้วย โดยเตาไมโครเวฟจะทำให้ขนมสุกอย่างรวดเร็ว และเตาอบธรรมดาจะทำให้ขนมมีสีเหลืองเข้มขึ้น เตาอบแบบใหม่นี้จะมีระบบทำความสะอาดในตัวเอง โดยที่เขม่าดำที่เกิดขึ้นจะถูกเปลี่ยนเป็นขี้เถ้า และที่ผนังเตาจะบุด้วยเยื่อพิเศษ ซึ่งเขม่าหรือขี้เถ้าจะไม่สามารถเกาะติดผนังนี้ได้ ทำให้ภายในเตาอบสะอาดเตาอบรุ่นใหม่นี้จะมีลักษณะต่างๆ กัน ทำให้สะดวกในการใช้งาน เช่น เตาอบพร้อมตู้หมัก เตาอบที่สามารถเข็นรถเข็นเข้าไปได้และสามารถอบได้ทั้งรถเข็น เตาอบที่ใชในงานอาหารมีหลายแบบ หลายขนาด มีทั้งชนิดตอนเดียวหรือ 2-3 ตอน โดยเปิดใช้ทีละตอนก็ได้ แต่ละตอนมีชั้นเดียว เตาอบบางชนิดมีชั้นสำหรับอบหลายชั้น ตั้งแต่ 5-10 ชั้น มีพัดลมเป่าความร้อนกระจายได้ทั่วทั้งเตา ทำให้ขนมที่อบสุกแล้วมีสีสันสวยเสมอกันสำหรับเตาอบที่ใช้ภายในบ้านส่วนใหญ่ด้านล่างจะเป็นเตาอบ ส่วนด้วนบนเป็นเตาสำหรับใช้หุงต้ม มีเข็มบอกอุณหภูมิความร้อนของเตาอบเป็น 3 ระดับ  ต่ำ ปานกลาง และสูง หรืออาจเป็นตัวเลขบอกอุณหภูมกำกับไว้ มีหลายขนาดหลายราคา ถ้าราคาถูกมักจะควบคุมอุณหภูมิไม่ได้ แต่ถ้าราคาแพง สามารถควบคุมอุณหภูมได้และอาจตั้งเวลาได้ด้วย เราควรเลือกซื้อเตาอบประเภทไหนดี ทุกประเภทของเตาอบจะมีทั้งข้อดีและข้อจำกัดที่แตกต่างกันค่ะ ซึ่งควรเลือกให้ตรงกับการใช้งานของคุณ เตาอบนั้นก็จะทำประโยชน์ให้กับคุณอย่างดีที่สุดค่ะ คุณสมบัติที่ดีของเตาอบ…
Read More

เตาอบไมโครเวฟ

เตาอบไมโครเวฟ (Microwave Oven) เตาอบไมโครเวฟ เริ่มมีการใช้เป็นครั้งแรกในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อ พ.ศ.2490 ในประเทศที่พัฒนาแล้ว โดยจัดเป็นเตาอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งเป็นผลพลอยได้จากการพัฒนาเรดาร์ การพัฒนาปรับปรุงเพื่อลดขนาดและราคาของเตาอบไมโครเวฟได้มีขึ้นในอีก 20 ปีต่อมา จนปัจจุบันกลายเป็นสิ่งอำนวยความสะดวกให้กับแม่บ้านในการประกอบอาหาร เตาอบไมโครเวฟ ประกอบด้วย แมกนีตรอนส่วนควบคุมแมกนีตรอน (โดยทั่วไปใช้ ไมโครคอนโทรลเลอร์)ท่อนำคลื่น หรือ เวฟไกด์ (waveguide)ช่องสำหรับอบอาหารลูกกรงฟาราเดย์ประตูตู้ หลักในการทำงานของเตาอบไมโครเวฟ เตาอบไม่โครเวฟทำให้อาหารสุกได้ เนื่องจากอาหารมีการดูดซับพลังงานคลื่นไว้และคลื่นไมโครเวฟทำให้โมเลกุลของน้ำในอาหารสั่นสะเทือนและชนกับโมเลกุลอื่น ๆ จนเกิดเป็นพลังงานจลน์ และพลังงานจลน์ที่เกิดขึ้นนั้นค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นพลังงานความร้อนแทน เป็นผลให้อาหารร้อนมากขึ้นจนกระทั่งสุก โดยภาชนะที่ใส่อาหารจะต้องทำจากวัสดุที่เม่ดูดกลืนไมโครเวฟ เช่น แก้ว กระดาษ เซรามิค หรือพลาสติกที่ระบุว่าใช้สำหรับไมโครเวฟ เมื่อเทียบกับการปรุงอาหารโดยใช้เตาอบธรรมดา ความร้อนที่เกิดจากเชื้อเพลิงไม่ว่าจะเป็นก๊าซหุงต้มหรือไฟฟ้าจะถูกส่งผ่านไปยังชิ้นอาหารโดยวิธีนำความร้อน อาหารจึงสุกจากภายนอกสู่ภายใน ในขณะที่เตาอบไมโครเวฟมีความร้อนเกิดขึ้นในอาหารตรงบริเวณที่มีน้ำอยู่เท่านั้น โดยที่รอบ ๆ อาหารจะไม่ร้อนเพราะไม่มีน้ำ ความร้อนของอาหารจะร้อนขึ้นพร้อมกันอย่างสม่ำเสมอตามการสั่นของสนามไฟฟ้า ช่องสำหรับอบอาหารนั้นจะถูกล้อมไว้ด้วย กรงฟาราเดย์ เพื่อกักไม่ให้คลื่นหลุดลอดออกมาสู่ภายนอก ประตูตู้นั้นส่วนใหญ่จะเป็นกระจก ซึ่งจะมีขั้นที่เป็นลูกกรงทำด้วยสารตัวนำไฟฟ้าสำหรับกันคลื่น เนื่องจากข่ายลูกกรงนี้มีขนาดความกว้างของช่องเล็กกว่า ความยาวคลื่น คือ 12 เซนติเมตร คลื่นไมโครเวฟจึงไม่สามารถลอดผ่านออกมาได้ ในขณะที่ แสงสว่างผ่านลอดออกมาได้เนื่องจาก แสงมีความยาวคลื่นที่สั้นกว่ามากปัญหาที่มีคนสงสัยว่าการถูกคลื่นไมโครเวฟโดยตรงจะเป็นอันตรายหรือไม่ ปกติแล้วการถูกคลื่นไมโครเวฟมักไม่เกิดขึ้นเนื่องจากเตาไมโครเวฟจะถูกปิดอย่างแน่นหนาและมี Safety switch ที่คอยควบคุมให้เครื่องทำงานก็ต่อเมื่อบานประตูถูกปิดสนิทแล้วเท่านั้น เนื่องจากคลื่นความถี่ไม่สูงพอจึงไม่เสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็ง ด้วยคุณสมบัติอันน่าทึ่งนี้ ทำให้เตาอบไมโครเวฟได้รับความนิยมมาก ในการใช้เตาอบไมโครเวฟนั้นจะได้รับคำเตือนว่าไม่ให้นำโลหะหรือภาชนะที่มีโลหะเป็นองค์ประกอบเข้าไปในเตา คลื่นไมโครเวฟเป็นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่ก่อให้เกิดสนามแม่เหล็กและไฟฟ้า และมีการสลับขั้วอย่างรวดเร็วตามความถี่ของคลื่น หากเป็นโลหะจะทำหน้าที่คล้ายสายอากาศรับคลื่น ถ้ามีจำนวนมากจะทำให้อากาศบริเวณนั้นแตกตัวเกิดเป็นประกายไฟได้ ประเภทของเตาไมโครเวฟ แบ่งออกเป็น 4 ประเภท 1. เตาอบไมโครเวฟธรรมดา (Solo Microwave Oven) คือเตาอบทั่วไปที่ใช้หลักการทำงานของคลื่นไมโครเวฟอย่างเดียว ใช้สำหรับอบอาหาร อุ่นอาหาร ละลายน้ำแข็งและต้มค่ะ 2. เตาอบไมโครเวฟแบบย่าง (Grill Microwave Oven) เตาอบชนิดนี้มาพร้อมกับแท่งหรือขดลวดความร้อน (Heat Coll คล้าย ๆ กับเตาอบไฟฟ้า) ที่ผนังด้านบน ทำให้เตาชนิดนี้สามารถใช้ย่างเนื้อ ย่างผัก หรืออบขนม อบพิซซ่าได้เหมือนเรามีเตาอบไฟฟ้าและเตาอบไมโครเวฟในกล่องเดียวกัน เวลาจะใช้งานจะต้องเลือกว่าจะใช้ไมโครเวฟอย่างเดียว หรือย่างอย่างเดียว 3. เตาอบไมโครเวฟแบบอบลมร้อน (Convection Microwave Oven) เตาชนิดนี้จะเหมือนกับการนำเอาเตาอบลมร้อนที่นิยมใช้ในการอบขนม (Convection Oven) รวมร่างกับเตาอบไมโครเวฟ โดยการอบลมร้อนจะมีแหล่งกำเนิดความร้อนจากด้านหลัง (อาจเป็นขดลวดความร้อนหรือหลอดไฟที่ให้ความร้อนสูง) และมีพัดลมเป่าอากาศร้อนนี้ให้หมุนเวียนภายในเตาอบ สามารถตั้งอุณหภูมิได้อย่างแม่นยำ ทำให้สามารถที่จะใช้อบขนมได้ดีมาก ในขณะเดียวกันก็ใช้ฟังก์ชั่นไมโครเวฟหรือย่างได้เหมือนกับเตาอบไมโครเวฟแบบย่าง แต่ว่าเตาอบชนิดนี้ราคาจะค่อนข้างสูง เพราะว่าเตาจะมีขนาดใหญ่กว่าเตาอบไมโครเวฟทั่วไป 4. เตาอบไมโครเวฟแบบอบไอน้ำ (Steam Microwave Oven) เตาชนิดนี้เพิ่งมีได้ไม่กี่ปีที่ผ่านมา เนื่องจากในประเทศตะวันตกมีการหันมาใช้เตาอบไอน้ำ (Steam (ven) เพื่อนึ่งผัก นึ่งปลากันมากขึ้นเนื่องจากการนึ่งจะรักษาวิตามินและเกลือแร่ให้อยู่กับอาหารได้ดีกว่าการต้ม จึงมีการนำเตาอบไอน้ำนี้เข้าไปรวมกับเตาอบไมโครเวฟ…
Read More

เตาอบขนมเค้ก (Oven Cake)

เตาอบขนมเค้ก (Oven Cake) ในราวศตวรรษที่ 13 มีการค้นพบหลักฐานการอบขนมเค้กขั้นแอดวานซ์ที่เก่าแก่ที่สุดจากชาวอียิปต์โบราณ โดยมักจะเป็นรสชาติของเค้กผลไม้ และ Ginger bread รูปแบบเค้กทรงกลมที่เราเห็นกันทุกวันนี้ เริ่มราวกลางศตวรรษที่ 17 ในยุโรป ซึ่งเป็นช่วงที่มีพัฒนาการของเตาอบ ย้อนหลังเมื่อปี 2480 ธุรกิจขนมอบในเมืองไทยไม่ได้เป็นที่รู้จักแพร่หลายเหมือนในปัจจุบัน ขนมเค้ก ก็ไม่ได้เป็นที่คุ้นเคยของคนทั่วไป ร้านขนมอบก็มีเพียงไม่กี่ร้าน เพราะธุรกิจขนมอบในสมัยนั้นแคบมาก ไม่เป็นที่รู้จักแพร่หลายต่อมาคนไทยโดยเฉพาะคนกรุงเทพฯ เริ่มรู้จักขนมอบมากขึ้นเมื่อหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุดลง มีการติดต่อค้าขายกับต่างประเทศมากขึ้น ทำให้ธุรกิจโรงแรมขยายตัว จึงต้องผลิตอาหารประเภทขนมอบ เช่น ขนมปัง ขนมเค้ก เพื่อบริการลูกค้าชาวต่างประเทศที่ไม่คุ้นเคยอาหารไทย ด้วยเหตุนี้ผลิตภัณฑ์ขนมอบจึงเป็นที่รู้จักและแพร่หลายมากขึ้น ร้านลิตเติ้ลโฮมเบเกอรี่ สาขาทองหล่อ ปี 2512 ขอบคุณรูปภาพจาก เพชรมายา ในขณะเดียวกันก็มีร้านเบเกอรี่ที่ผลิตขนมเค้กออกขาย ธุรกิจขนมอบเริ่มจัดว่าเป็นธุรกิจได้ เมื่อสมัยสงครามเวียดนาม ประมาณ 30 กว่าปีมาแล้ว ช่วงนั้นกิจการขนมอบเริ่มขยายตัวมากขึ้น เนื่องจากมีความต้องการอาหารประเภทนี้สูงเมื่อสงครามเวียดนามสิ้นสุดลงคนไทยเริ่มบริโภคขนมเค้ก ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ขนมอบมากขึ้น นักธุรกิจหลายรายเริ่มมองเห็นลู่ทางในการลงทุนทำธุรกิจนี้ เนื่องจากเห็นว่าผลิตภัณฑ์ขนมอบเข้ามามีความสำคัญต่อชีวิตประจำวันของคนไทยมากขึ้น ในการที่เราจะทำขนมเค้กนั้นส่วนประกอบหลัก คือ แป้ง น้ำตาล นม เนย แต่สิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้เลยคือ“เตาอบขนมเค้ก” ประเภทของเตาอบขนมเค้ก เตาอบขนมเค้กขนาดเล็ก สไตล์ Homemade เน้นใช้ในบ้านที่ทำเค้กทานกันเอง แต่ก็สามารถใช้กับร้านที่ไม่เน้นขายค้กมากนัก เช่น ร้านการแฟที่มีเค้กเป็นส่วนเสริม หรือร้านที่ทำขนมวันต่อวันจะมีขนาดตั้งแต่ 30 จนถึง 70 กว่าลิตร ราคาก็จะอยู่ที่ประมาณหลักพัน แต่ไม่เกินหมื่น เตาอบเค้กชนิดนี้มีแต่แบบไฟฟ้า การให้ความร้อนทำโดยจ่ายกระแสไฟเข้าขดลวดความร้อนทั้งด้านบนและด้านล่างของเตา โดยส่วนใหญ่จะสามารถปรับไฟบน-ล่างแยกจากกันได้ ตั้งอุณหภูมิและเวลาเปิดปิดได้ มีพัดลมสำหรับกระจากความร้อนให้สม่ำเสมอ แต่เนื่องจากขนาดของเตาที่ค่อนข้างเล็ก ทำให้อบเค้กต่อเตาได้จำนวนน้อย เตาอบเค้กขนาดใหญ่ สำหรับร้านทำเค้กโดยเฉพาะ เตาอบเค้กขนาดใหญ่นี้จะมีราคาค่อนข้างสูง คือหลักหมื่นไปจนถึงหลักแสน ใช้สำหรับร้านเค้กทั่วไป กำลังการผลิตจะสูงขึ้นและความเสถียรอุณหภูมของเตา รวมถึงคุณภาพของเค้กที่อบออกมาก็จะดีกว่า ไม่ต้องวุ่นวายปรับไฟบนล่าง เนื่องจากอุปกรณ์ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้การทำความร้อนและคุมความร้อนได้ดีทั่วถึงทั้งเตา ในกรณีที่เราเป็นมือใหม่หัดทำขนมเค้กอยากจะแนะนำว่าเราควรจะเลือกซื้อเตาอบไฟฟ้าขนาดเล็กใช้ก่อน เนื่องจากมีราคาที่ไม่แพง เมื่อเราทำจนคล่องคิดรูปแบบขนมเค้กใหม่ ๆ ได้แล้ว และแน่ใจแล้วว่าเราจะประกอบอาชีพนี้อย่างแน่นอนค่อยซื้อเตาขนาดใหญ่ก็ยังไม่สาย บทความแนะนำสำหรับคุณ เตาอบไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี ปี 2018[ratings]
Read More

เตาอบขนมปัง (Oven Bread)

เครื่องอบขนมปัง (Oven Bread) ขนมปังได้แพร่หลายจากอียิปต์ไปสู่ภูมิภาคต่าง ๆ แถบเมดิเตอเรเนียนในกลุ่มเยรูซาเล็มโบราณ รวมทั้งเมืองเล็กเมืองน้อยที่อยู่บนเส้นทางค้าขายของพวกตะวันออกกลาง การทำผลิตภัณฑ์เบเกอรี่จึงได้เป็นที่ยอมรับกันอย่างกว้างขวางมากขึ้น ซึ่งการทำช่วงแรกยังไม่มี เครื่องอบขนมปัง ให้ใช้มากนัก พวกกลุ่มพ่อค้าชาวโพนิเซียนเป็นพวกแรกที่เผยแพร่การทำขนมปังและดูเหมือนว่าชาวกรีกยุคแรกได้เรียนรู้การทำขนมปังที่ขึ้นฟูมาจากกลุ่มโพนีเซียน เมื่อ 1000 ปีก่อนคริสตกาล ในศตวรรษต่อมาวิวัฒนาการในศิลปะการทำขนมปังก้าวหน้ามากพวกกลุ่มก้าวหน้ากรีกได้ดัดแปลงเตาอบแบบอียิปต์โบราณมาเป็นเตาอบแบบใช้อิฐก่อเป็นรูปโดมซึ่งมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ในยุคอเมริกาขณะที่เป็นเมืองขึ้น การอบขนมปังทำในเตาอบดัดซ์ ซึ่งตั้งอยู่ด้านหน้าเตาผิงหรือตั้งติดกัน หรือตั้งในซุ้มที่มีปล่องไฟสร้างไว้ด้านหลังของเตาผิงก่อด้วยอิฐขนาดกว้าง เตาอบเหล่านี้ได้รับความร้อนจากฟืนที่ใส่ไว้ด้านใน เมื่ออิฐร้อนทั่วกัน จะเผาไหม้จนเกิดขี้เถ้า ขี้เถ้าจะถูกเอามาใส่หลุมขี้เถ้าด้านในปล่องไฟของเตาอบจะถูกปิด และขนมปังจะถูกอบอยู่ในภาชนะจนสุก แม่บ้านในยุคนี้จะมีประสบการณ์ในการควบคุมอุณหภูมิของเตาอบในการทำขนมปังได้ดีที่สุด ในปัจจุบันนี้ การทำขนมปังนั้นนับว่าเป็นศิลปะอย่างหนึ่ง ซึ่งต้องการความชำนาญเป็นอย่างมาก แต่วิวัฒนาการด้านเครื่องมือที่จะช่วยอำนวยความสะดวกที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพ ก็ได้รับการพัฒนาคิดค้นอย่างต่อเนื่องเหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นเตาอบที่ควบคุมด้วยไมโครคอมพิวเตอร์ เพื่อให้การทำขนมปังมีวิวัฒนาการเจริญก้าวหน้าและทันสมัยต่อไปอย่างไม่หยุดยั้งสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้ในการทำขนมปังนั้นก็คือ “เตาอบ” ประเภทเตาอบขนมปัง 1. เตาอบขนมปังแบบแก๊ส ตัวนี้จะมีไฟล่างหลายตัว และมีด้านข้างด้วย เราต้องศึกษาเองว่าจะหรี่ไฟ จุดไหน เร่งจุดไหน ปิดจุดไหน เพราะขนมปังแต่ละชนิดต้องการไฟไม่เท่ากัน แต่ข้อดีของเตาชนิดนี้คือทนทานมาก ค่าซ่อมบำรุงถูก เหมาะสำหรับ ร้านค้า หรือ คนชอบทำขนม แบบทำบ้างไม่ทำบ้างก็ได้เครื่องไม่เสีย ไม่รวน ไม่ต้องบำรุงรักษามาก ทนทาน แบบถาด 2 ชั้นวัสดุที่ใช้มี 2 แบบ คือเหล็กกับสแตนเลสจะไม่มีไฟบน จะใช้ไฟจากด้านข้าง blow ขึ้นไปด้านบน อุณหภูมิเขาจะวัดจากด้านบนของเตาอบเพียงจุดเดียว ไม่มีพัดลม 2. เตาอบขนมปังแก๊สควบคุมไฟฟ้า ข้อดีคือเราไม่ต้องเรียนรู้อะไรมาก ตั้งเวลาได้ ไม่ต้องกลัวลืม ไฟสม่ำเสมอดี สามารถตั้งอุณหภูมิได้ทั้งบน ทั้งล่าง ประหยัดกว่าแบบไฟฟ้า แต่มีข้อเสียคือ ค่าซ่อมบำรุงแพง มีระบบข้างในเครื่องค่อนข้างเยอะ เหมาะสำหรับร้านค้า แต่ไม่เหมาะกับคนชอบทำบ้างไม่ทำบ้าง เตาอบแบบนี้จะต้องการคนใช้แบบสม่ำเสมอ ใช้ ๆ หยุด ๆ จะทำให้เครื่องพังได้ จะมีทั้งไฟบน ไฟล่าง อุณหภูมิ เขาจะวัดจาก ด้านบนและด้านล่างของเตาอบ แบบนี้ไม่มีพัดลม 3. เตาอบขนมปังแบบไฟฟ้า จะมีให้ทุกอย่าง ตั้งแต่ พัดลม ไฟบน ไฟล่าง แต่ใช้ไฟฟ้าค่อนข้างมาก  อุณหภูมิจะสม่ำเสมอ จะมีฉนวนกันความร้อน วัสดุที่ใช้จะเป็นสแตนเลสและเหล็ก เราควรเลือกซื้อเตาอบขนมปังประเภทไหนดี ทุกประเภทของเตาอบขนมปังจะมีทั้งข้อดีและข้อจำกัดที่แตกต่างกันค่ะ ซึ่งควรเลือกให้ตรงกับการใช้งานของคุณ เตาอบนั้นก็จะทำประโยชน์ให้กับคุณอย่างดีที่สุดค่ะ คุณสมบัติที่ดีของเตาอบขนมปัง เตาอบขนมปังที่ดีควรเป็นเตาอบที่สามารถควบคุมอุณหภูมิได้คงที่ หมายถึง เมื่อตั้งอุณหภูมิไว้เท่าใดแล้ว อุณหภูมิภายในเตาอบจะไม่เปลี่ยนแปลงจากที่ตั้งไว ถ้าเตาอบขนมปังไม่มีเครื่องควบคุมอุณหภูมิ ควรใช้เทอร์โมมิเตอร์ที่ใช้สำหรับเตาอบแขวนไว้ภายในตู้บริเวณด้านล่างของเตาอบขณะอบอาหาร การดูแลรักษาเตาอบ ก่อนที่เราจะใช้เตาอบขนมปัง เราจะต้องทำการเผาเตาก่อน ด้วยการเปิดไฟบนล่าง 200 องศา นาน 30 นาที และควรเปิดฝาเตาอบขนมปังไว้ จะมีควันออกมาในตอนแรกและมีกลิ่นสารเคมีเหม็นๆ ไม่ต้องตกใจ เพราะสักพักมันจะหายไปเอง พอครบเวลาถอดปลั๊กออกรอให้เตาเย็น อ้ออย่าลืมเอาถาดเข้าไปอบด้วยเพื่อไล่กลิ่นสารเคมีที่เคลือบมา แล้วก็เช็ดทำความสะอาดด้วยผ้าหมาดๆ 1 รอบเป็นอันเสร็จสิ้น…
Read More